11 คำถามที่พบบ่อย โครงการ"คนละครึ่ง" มีคำตอบที่นี่!
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนโครงการ"คนละครึ่ง" ในส่วนของประชาชนทั่วไปเพื่อรับสิทธิ ค่าใช้จ่ายจากรัฐบาล โดยรัฐจะช่วยจ่าย 50% ไม่เกินวันละ 150 บาท หรือ สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลา ซึ่งผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยจะเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.-31 ธ.ค.2563
อย่างไรก็ตามยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการ "คนละครึ่ง"จากประชาชน ทั้งการลงทะเบียนและการเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน"เป๋าตัง" เนื่องจากหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี ดังนั้นเราจึงจะมาไขข้อสงสัย กับ 5 คำถามเกี่ยวกับการลงทะเบียน และ 6 คำถามเกี่ยวกับการใช้แอปฯ"เป๋าตัง"
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง
1. Q: สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือซ้ำกันในการลงทะเบียนได้หรือไม่?
A:เบอร์มือถือที่ใช้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ลงทะเบียนซ้ำได้
2. Q: การลงทะเบียนภาคประชาชนจะแจ้งผลการลงทะเบียนผ่านช่องทางใด?
A: ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com จะได้ผลลงทะเบียนทาง SMS ตามเบอร์มือถือที่แจ้งไว้
3. Q: หลังจากลงทะเบียนแล้วประชาชนจะทราบผลภายในกี่วัน?
A: ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com จะได้ผลลงทะเบียนทาง SMS ตามเบอร์มือถือที่แจ้งไว้ ภายใน 3 วัน
4. Q: ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถลงทะเบียนได้หรือไม่?
A: ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนบนเวปไซต์ได้ ระบบจะล็อคให้ไม่สามารถลงทะเบียนได้
5. Q: ประชาชนที่ลงทะเบียนรับสิทธิ "โครงการคนละครึ่ง" สามารถเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์มือถือระหว่างรับสิทธิโครงการได้หรือไม่?
A: ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเบอร์มือถือระหว่างรับสิทธิโครงการคนละครึ่งได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชัน"เป๋าตัง"
1. Q: กรณีไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนเพื่อใช้สิทธิโครงการ และใช้แอปฯเป๋าตังเพื่อผูก G-Wallet หรือทำการสแกนหน้าไม่สำเร็จต้องทำอย่างไร?
- สามารถลองใหม่ได้ โดยถ่ายบัตรประชาชนตนเองในที่ที่มีแสงสว่างพอดี และไม่มีเงาบนหน้าบัตร และการถ่ายรูปใบหน้าตนเองให้ถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มืดหรือสว่างเกินไป
- แต่หากรูปถ่ายบนบัตรมีความไม่ชัดเจนหรือไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนได้ แนะนำให้ไปยืนยันตัวตนที่สาขาฯเพื่อดำเนินการ หลังจากเรียบร้อยแล้วให้ประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯอีกครั้ง"
2. Q: หากมีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"ไม่ตรงกับที่ลงทะเบียน"คนละครึ่ง" ทำให้การยืนยันตัวตนG-Wallet ไม่สำเร็จต้องทำอย่างไร?
- ให้นำบัตรประชาชนตัวจริงไปติดต่อเพื่อยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย
3. Q:เวอร์ชันมือถือที่รองรับแอปฯเป๋าตัง ที่ร่วมโครงการ ขั้นต่ำเป็นเวอร์ชันใด?
- โทรศัพท์มือถือแบบ smartphone ซึ่งรองรับการใช้งานแอพฯ เป๋าตังและสามารถถ่ายรูปได้ และรองรับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ver. 5.0 ขึ้นไป หรือโทรศัพท์ไอโฟน iOS ver. 9.0 ขึ้นไป
4. Q:ในกรณียืนยันตัวตนไม่สำเร็จต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา เมื่อดำเนินการเสร็จ สามารถใช้งานได้ทันทีหรือไม่?
- สามารถเข้าใช้งานเมื่อทำการยืนยันตัวตนลังจากทางสาขาทำการยืนยันตัวตนสำเร็จ จากนั้นประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯอีกครั้ง
5. Q:กรณีมีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ชื่อที่แสดงบน G-Wallet แอปฯเป๋าตัง จะแสดงเป็นชื่อเก่าหรือชื่อใหม่?
- การลงทะเบียนเว็ปไซด์โครงการฯ และขั้นตอนการยืนยันตัวตนลูกค้าสามารถลงทะเบียนด้วยชื่อ-นามสกุล ตามบัตรประชาชนใหม่ได้ตามปกติ อย่างไรก็ดีเนื่องจากปัจจุบันลูกค้ายังไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในระบบได้ชื่อบน G-Wallet จะแสดงชื่อ-นามสกุลเดิม ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบกับการใช้สิทธิในโครงการฯ แต่อย่างใด
6. Q:กรณีไม่ได้ลงทะเบียน คนละครึ่งทางเว็บไซต์ หรือยังไม่ได้ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯเป๋าตัง (ยืนยันรหัส Pin ของ Next หรือผูกบัฐชญชีกรุงไทยผ่านแอปฯเป๋าตัง) สามาถทำธุรกรรมใดได้บ้างบนแอปฯเป๋าตัง?
- สามารถทำธุรกรรมได้ 2 รายการ ดังต่อไปนี้
1.โอนเงินเข้ำบัญชีกรุงไทยของตนเอง
2.โอนเงินพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนตนเอง (ต้องสมัครก่อน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวม 12 ปัญหา มาตรการ "คนละครึ่ง"
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE