โลกจับตา “เจ้าชายวิลเลียม” เตรียมร่วมประชุม COP30 ที่บราซิล ปลุกพลังผู้นำโลกสู้โลกร้อน

การประชุมสุดยอดผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ หรือ “COP30” ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองเบเลง ประเทศบราซิล ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2568 กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากมีรายงานว่า “เจ้าชายวิลเลียม” เจ้าชายแห่งเวลส์ จะเสด็จเข้าร่วมงาน พร้อมทำหน้าที่มอบรางวัล “Earthshot Prize” รางวัลสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่พระองค์ทรงก่อตั้งขึ้น

การปรากฏตัวของเจ้าชายวิลเลียมในเวทีสำคัญระดับโลกครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็น “แรงกระตุ้นเชิงสัญลักษณ์” ที่ช่วยเรียกความสนใจของสื่อและสาธารณชนกลับมาที่ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในช่วงหลังเริ่มถูกกลบด้วยข่าวสารด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลก

นักวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมประเมินว่า การเข้าร่วมของเจ้าชายจะช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกให้กับการประชุมซึ่งคาดว่าจะเต็มไปด้วยความท้าทาย เนื่องจากผู้นำกว่า 190 ประเทศต้องหาข้อตกลงร่วมกันในการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกชุดใหม่ และเพิ่มกลไกทางการเงินเพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการปรับตัวต่อวิกฤตภูมิอากาศ

ในแง่การสื่อสาร การมีบุคคลระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างเจ้าชายวิลเลียมเข้าร่วม ถือเป็นการ “ยกระดับภาพลักษณ์” ของการประชุม COP ที่มักถูกมองว่าเป็นเวทีเทคนิคของนักการเมืองและนักวิทยาศาสตร์ มากกว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนทั่วไปติดตาม

แหล่งข่าวจากองค์กรสิ่งแวดล้อมระบุว่า การเสด็จของเจ้าชายจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้นำชาติอื่น ๆ กล้าประกาศนโยบายที่ทะเยอทะยานมากขึ้น และเป็น “ตัวเร่งให้สื่อทั่วโลกหันกลับมาสนใจปัญหาภูมิอากาศ” ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้รับพื้นที่สื่อน้อยลง แม้ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม ในอดีต พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เคยทรงเข้าร่วมการประชุม COP หลายครั้ง รวมถึงการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2564 ซึ่งขณะนั้นยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ แต่สำหรับปีนี้ พระองค์จะไม่เสด็จเข้าร่วม โดยมีเจ้าชายวิลเลียมเป็นผู้แทนสืบต่อภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยพลังงานและภูมิอากาศของสหราชอาณาจักรให้ความเห็นว่า การมีเจ้าชายวิลเลียมเข้าร่วมเพียงพระองค์เดียวก็เพียงพอที่จะช่วยผลักดันประเด็นสำคัญ เนื่องจากพระองค์ได้รับความเคารพจากทั้งนักการเมือง ผู้นำองค์กร และคนรุ่นใหม่ทั่วโลก

ขณะที่ “เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์” นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ยังคงไม่ยืนยันว่าจะเดินทางไปร่วมประชุม COP30 หรือไม่ ทำให้เขาเผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำและนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่ออกมาเรียกร้องให้เขาเข้าร่วม

ด้านอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ “บัน คีมูน” และอดีตประธานาธิบดีไอร์แลนด์ “แมรี โรบินสัน”ต่างแสดงความเห็นว่า การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เป็น “บททดสอบความเป็นผู้นำ” ของประเทศมหาอำนาจ ไม่ใช่เพียงมารยาททางการทูต เพราะนี่คือช่วงเวลาที่โลกต้องการเห็นความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการลดคาร์บอนและสนับสนุนเงินทุนเพื่อการปรับตัวต่อผลกระทบจากวิกฤตภูมิอากาศ

ทั้งสองฝ่ายเตือนว่า “โลกกำลังจับตามอง” และการปรากฏตัวของผู้นำในเวที COP30 จะเป็นสิ่งที่ประวัติศาสตร์จดจำ

การประชุม COP30 (Conference of the Parties ครั้งที่ 30) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ที่เมือง เบเลง รัฐปารา ประเทศบราซิล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแอมะซอน พื้นที่ที่ถือเป็น “ปอดของโลก” และกำลังเผชิญกับการตัดไม้ทำลายป่าในระดับรุนแรง การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกำหนดแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะยาวภายใต้ ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) รวมถึงการเพิ่มงบประมาณเพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการปรับตัวรับมือกับผลกระทบจากโลกร้อน