รีเซต

MINTโรงแรมยุโรปฟื้น เป้าปีนี้ผลงานพลิกบวก

MINTโรงแรมยุโรปฟื้น เป้าปีนี้ผลงานพลิกบวก
ทันหุ้น
8 มีนาคม 2565 ( 07:27 )
124
MINTโรงแรมยุโรปฟื้น เป้าปีนี้ผลงานพลิกบวก

#MINT #ทันหุ้น – MINT ตั้งเป้าปี 2565 ผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไร จาก 3ธุรกิจหลักฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมตั้งงบลงทุน 6.4 พันล้านบาท ใช้ก่อสร้างโรงแรมที่ดำเนินการอยู่ เล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 7 พันล้านบาท รีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่จะครบอายุ มองสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่กระทบ ฟากโบรกมองปี 2565 ธุรกิจฟื้นตัวเกิดอัพไซด์ คาดกำไรกลับมาที่ 2.5 พันล้านบาท โรงแรมฟื้นยุโรปยกเลิกมาตรการคุมโควิด ประเมินราคาเป้าหมาย 43 บาท

 

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า สำหรับปี 2565 คาดว่าผลประกอบการจะสามารถพลิกกลับมากำไร เทียบกับปี 2564 ที่มีผลขาดทุนปกติที่ 9.3 พันล้านบาท โดยการฟื้นตัวจะมาจากทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิโรงแรม, ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยในส่วนธุรกิจโรงแรมในทวีปยุโรป ปัจจุบันหลายประเทศได้มีประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำท้องถิ่น เริ่มเห็นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในยุโรป มีการจองห้องพักเข้ามา

 

รวมถึงโรงแรมในกลุ่มอย่าง NH Hotel ยังรักษาอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยไว้ได้ดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฟื้นตัว ขณะที่ในประเทศไทยจำนวนนักท่องเที่ยวมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น หลังกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสจากทุกประเทศให้สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และได้ยกเลิกเงื่อนไขในการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีการผ่อนคลายเงื่อนไขเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนโรงแรมมัลดีฟส์ ผลประกอบการค่อนข้างดีกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19

 

*ทุกธุรกิจฟื้นตัวดี

 

สำหรับธุรกิจอาหารในประเทศไทย บริษัทพยายามเพิ่มช่องทางการจัดส่งอาการและทานอาหารที่ร้าน ขณะที่ในประเทศจีน ยอดขายสาขาเดิม (SSS) เป็นบวกตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา ส่วนในประเทศออสเตรเลีย ได้ทำกลยุทธ์ปรับปรุงสาขาให้มีความทันสมัยมากขึ้น และปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร ทำให้ปีนี้จะไม่มีการับรู้ผลขาดทุนจากสาขาที่ไม่ทำกำไรแล้ว ส่วนธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ ยังคงดำเนินกลยุทธ์เพื่อผลักดันรายได้ผ่านการขายในทุกช่องทาง การเลือกซื้อสินค้าการจัดการสินค้าคงเหลือ และดำเนินมาตรการการประหยัดค่าใช้จ่าย

 

สำหรับโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่โดยปกติแล้วช่วงไตรมาส 1 จะเป็นช่วงของโลว์ซีซันของธุรกิจ ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซีย และยูเครน ประเมินว่าไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากบริษัทไม่มีธุรกิจโรงแรม หรือร้านอาหารในประเทศดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด

 

*ลงทุน 6.4 พันล้าน

 

สำหรับในปี 2565 บริษัทวางงบลงทุนไว้ประมาณ 6,400 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ รวมไปถึงการสร้างโรงแรมตามแผน และสถานะการเงินของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นปี บริษัทมีกระแสเงินสดที่ 2.5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ยังสามารถเบิกจ่ายได้อีก 3.3 หมื่นล้านบาท รวมไปถึงจะมีแผนการออกหุ้นกู้จำนวน 7 พันล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุ

 

*ปีนี้คาดกำไร 2.5 พันล.

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง MINT ว่า ผลกระทบจากความขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน ผู้บริหารมองผลกระทบจำกัด เพราะรายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียมีสัดส่วนเพียง 2% ของรายได้โรงแรมของ MINT ในปี 2562 พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบมาสุดคือ มัลดีฟส์ เพราะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียราว 13% ของรายได้จากมัลดีฟส์ อย่างไรก็ตามมีตัวช่วยชดเชยจากจานวนนักท่องเที่ยวยุโรปที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง

 

อีกทั้งมุมมอง Slightly Positive จากการเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ดีตามคาด NH Hotel ในยุโรปยังคงเป็น Key Driver หลักสำหรับปี 2565 และเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิด Upside หากฟื้นตัวมากกว่าที่คาดไว้ คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 43 บาท คาดผลขาดทุนปกติในไตรมาส 1/2565 ราว -1.5 พันล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับ -5.21 พันล้านบาท เพราะสถานการณ์ COVID ในยุโรปดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน และหลายประเทศ

 

นอกจากนี้ ยุโรปเริ่มยกเลิกมาตรการคุม COVID ให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ผลการดำเนินงานแย่ลงจากที่มีกำไร 1.66 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/2564 เพราะโรงแรมในยุโรปเป็น Low Season คงประมาณการทั้งปี 2565 พลิกกลับมามีกำไรปกติที่ 2.5 พันล้านบาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง