รีเซต

PTT โบรกฯ อัพกำไร-เป้าหมาย มองราคาหุ้นที่ปรับขึ้นน้อย จำกัด downside

PTT โบรกฯ อัพกำไร-เป้าหมาย มองราคาหุ้นที่ปรับขึ้นน้อย จำกัด downside
ทันหุ้น
24 พฤศจิกายน 2564 ( 11:58 )
311

 

ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย จำกัด ออกบทวิเคราะห์ หุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ปรับฐานราคาเป้าหมายเป็นสิ้นปี 2565 ที่ 43.70 บาท จากราคาหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มาก ซึ่งตอนนี้ PTT ซื้อขายต่ำกว่า BV หรือ –1 เท่า SD ส่วน Downside จาก G1 เพื่มสูงขึ้น (ปริมาณผลิตหายไป 500 mmcfd 24 เดือนแรก) แต่ส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อ PTT จากการนำเข้า LNG ที่เพิ่มขึ้น ปี 2565 แนวโน้มแข็งแกร่ง จากราคาน้ำมันและก๊าซรวมถึงค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น แต่ราคา/ส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ลดลง ยอดขายของบริษัทย่อยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น YoY 

 

PTT มี downside เพิ่มเติมจากการเปลี่ยนผ่าน G1 ผู้บริหารชี้แจงว่าการผลิตก๊าซของโครงการ G1 จะลดลงเหลือ 200-300 mmcfd ในช่วงสิ้นสุดสัมปทานปัจจุบัน หรือน้อยกว่า DCQ สัปทานใหม่อยู่ 500 mmcfd เป็นเวลา 24 เดือนหลังสัมปทานใหม่เรมิ่ PTT วางแผนที่จะเร่งการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง G2, Arthit, B8 และ JDA รวมจานวน 250 mmcfd เพื่อชดเชยก๊าซ G1 ส่วนที่ขาดไป โดยในส่วนที่เหลือจะมีการนำเข้า LNG เพิ่มเติม ทั้งนี้ ต้นทุนส่วนเพิ่มจากการหายไปของปริมาณก๊าซ G1 ดังกล่าวจะถูกส่งผ่านไปยัง pool prices แต่ปริมาณก๊าซที่หายไปจาก G1 จะทำให้อัราดำเนินงานของโรงแยกก๊าซ (GSP) ของ PTT ลดลงเล็กน้อย YoY ซึ่งมีผลเชิงลบต่อปริมาณก๊าซอีเทนและโพรเพนในกลุ่มปิโตรเคมี

 

ความคืบหน้าของโครงการลงทุนของ PTT ผู้บริหารยืนยันว่า โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 เฟส 2 และ 3 จะเริ่มใช้งานภายในปี 2565 ในขณะที่บริษัทฯ มีแผนที่จะเริ่มผลิตคลัง LNG แห่งที่ 2 ภายในสิ้นปีหน้าเช่นกัน นอกจากนี้ โครงการโรงแยกก๊าซโรงที่ 7 อยู่ระหว่างการประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งโครงการโรงแยกก๊าซแห่งใหม่นี้จะมาทดแทนโรงแยกก๊าซโรงที่ 1 ที่ถูกให้มากกว่า 30 ปี โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะตั้งอยู่ติดกับคลัง LNG ของ PTT เพื่อร่วมใช้ความเย็นและสาธารณูปโภคอื่น ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากมีการกำหนดวัน SCOD ไว้ในปี 2568 ซึ่งขณะนั้นโครงการ G1 น่าจะกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติและผลิตก๊าซที่ DCQ ได้ ดังนั้น จะไม่มีปัญหาเรื่องความพร้อมของวัตถุดิบสำหรับโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่นี้

 

ภาพรวมในปี 2565 PTT มองว่าราคาน้ำมันดิบและก๊าซเฉลี่ยยังคงสูงขึ้น YoY ในปี 2565 มาอยู่ที่ 71-76 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และ 17.8 ดอลลาร์ฯ/mmbtu ตามลำดับ นอกจากนี้ ค่าการกลั่นน่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยเป็น 4-5 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาและส่วนต่างราคาของปิโตรเคมีจะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ในจีนและการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ บริษัทย่อยของ PTT ส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2565 ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงน้อยลง ยกเว้นบริษัทที่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานจำนวนมาก (PTTGC และ IRPC) และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของโครงการ G1 (GSP และ PTTEP) ซึ่งมุมมองเหล่านี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของฝ่ายวิจัย

 

ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-66 ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 6% จาก 9.89 หมื่นลบ. เป็น 1.046 แสนลบ. เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีนี้ที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-66 ลง 1-2% เป็น 9.89 หมื่นลบ. และ 8.58 หมื่นลบ. ตามปริมาณก๊าซจากแหล่ง G1 ที่ขาดหายไปมากขึ้นจาก 130 mmcfd เป็ น 250 mmcfd ในปี 2565-66 รวมถึงการปรับประมาณการล่าสุดของ PTTGC ลง 6-9% จากแผนการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน และปริมาณอีเทนและโพรเพนในปี 2566-67 ที่ลดลง นอกจากนี้ ยังปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-66 ของ PTTEP ลง 2% ในบทวิเคราะห์ฉบับนี้เช่นกัน เพื่อสะท้อน downside ของโครงการ G1 ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมมุติฐานราคาและอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์

 

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” และปรับฐานราคาเป้าหมายเป็นปลายปี 2565 ที่ 43.70 บาท เพื่อสะท้อนการปรับกำไรและการเปลี่ยนฐานราคาเป้าหมายไปเป็นปลายปี 2565 ราคาเป้าหมายใหม่อิงด้วยวิธี SOTP ของฝ่ายวิจัยจึงเพิ่มขึ้นจาก 40.50 บาท ในช่วงกลางปี 2565 ไปเป็น 43.70 ณ สิ้นปี 2565 ทั้งนี้ ด้วย upside ต่อราคาเป้าหมายใหม่ที่สูงขึ้น จึงปรับคำแนะนำสำหรับ PTT จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เชื่อว่าราคาหุ้น PTT ที่ปรับเพิ่มขึ้น น้อยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจะจำกัด downside ต่อราคาหุ้นในอนาคตหากราคาน้ำมันดิบกลับมาลดลงในปี 2565 ในขณะที่ราคาหุ้น PTT ขณะนี้ซื้อขายด้วย PBV ปี 2565 แค่ 0.98 เท่า หรือ –1 เท่า SD

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง