รวมสิ่งประดิษฐ์สุดแปลกแบบนี้ก็มีด้วย !

ถ้าพูดถึงคำว่านวัตกรรม หลายคนอาจจะคิดถึงสิ่งประดิษฐ์ หรือเทคโนโลยีล้ำ ๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แต่ก็มีหนึ่งกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ไม่ได้ออกแบบมาด้วยเป้าหมายเพื่อการใช้ประโยชน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นผลงานที่เน้นโชว์ความคิดสร้างสรรค์ จนกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดแปลก ที่ทำออกมาแล้ว ก็เรียกเสียงฮือฮาจากคนทั่วโลกได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

หมวกแป้นพิมพ์จาก Google

เริ่มกันที่ผลงานสุดแปลกจากกูเกิลประเทศญี่ปุ่น ที่ออกไอเดียแป้นพิมพ์สุดสร้างสรรค์ในชื่อ จีบอร์ดแคป (Gboard CAPS) แป้นพิมพ์ที่มาในรูปแบบหมวกปุ่มกดขนาดใหญ่ 1 ปุ่ม ให้เราเอาไว้สวมศีรษะ กลายเป็นแป้นพิมพ์ที่ไม่ต้องถือให้เกะกะ ก็พกพาไปใช้พิมพ์งานได้ทั่วทุกที่

ด้านในจะมีเซนเซอร์ 6 แกน วิธีการใช้งานก็คือจะต้องเอามือโยกปุ่มไปในทิศทางต่าง ๆ เพื่อเลือกตัวอักษรที่ต้องการ เซนเซอร์เหล่านี้ ก็จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของปุ่มตามจุดที่กำหนดไว้ว่าเป็นตัวอักษรอะไร และเมื่อเราได้ตัวอักษรตามต้องการแล้ว ก็แค่กดปุ่มอีกครั้ง เพื่อยืนยันการเลือกตัวอักษรนั้น ๆ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

สำหรับหมวกแป้นพิมพ์นี้ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใด ๆ ได้ด้วยสัญญาณ Bluetooth ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 120 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) และสามารถชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ USB-C อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ทั้งกับอุปกรณ์ Android และ iOS อีกด้วย ส่วนใครที่อยากได้หมวกใบนี้ กูเกิลไม่ได้มีวางจำหน่าย แต่ได้เปิดแหล่งข้อมูลการสร้างไว้บน GitHub (กิตฮับ) แพลตฟอร์มสำหรับแบ่งปันข้อมูลของนักพัฒนา ให้สามารถดาวน์โหลดไปลองสร้างเองได้

ตู้ยืนหลับ ไอเดียจากท่านอนยีราฟ

ผลงานต่อไปยังอยู่ที่แดนอาทิตย์อุทัยเช่นเคย กับผลงานที่มีชื่อว่า ยีราฟแน็ป (Giraffenap) เป็นตู้สำหรับใช้นอนหลับที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าออกแบบมาให้ผู้ใช้งานต้อง “ยืนหลับ” คล้ายกับวิธีการนอนของยีราฟ 

ตัวตู้มีขนาดใกล้เคียงตู้โทรศัพท์สาธารณะ โดยมีความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร และกว้าง 1.2 เมตร  ออกแบบให้สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ส่วนภายในตู้ประกอบด้วยแพลตฟอร์มรองรับน้ำหนักส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งโต๊ะรองแขน เก้าอี้รองก้น แท่นรองเข่า รวมถึงพนักเล็ก ๆ ด้านใต้ตู้ สำหรับรองฝ่าเท้า ทำให้เวลานอน เราจะต้องฟุบหน้าไปกับแขนที่วางอยู่บนโต๊ะ ส่วนขาก็จะอยู่ในลักษณะงอเข่า และเอียงตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย โดยไม่ต้องเกร็งร่างกายเพื่อรับน้ำหนักตัวเองแต่อย่างใด

สำหรับผลงานนี้เป็นฝีมือพัฒนาของ บริษัท โคโยจู พลายวู้ด คอร์ปอเรชัน (Koyoju Plywood Corporation) จากจังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องการสร้างพื้นที่สำหรับให้คนทำงานได้มีพื้นที่งีบหลับ ฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า ไม่ต้องทนกับอาการง่วงนอน และตื่นมามีแรงเพื่อที่จะลุยงานต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งกับบริษัทและตัวพนักงานเอง

แต่สำหรับใครที่อยากจะใช้ตู้นี้ จะต้องสูงไม่เกิน 198 ซม หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม ส่วนราคาวางจำหน่าย อยู่ที่ตู้ละประมาณ 3 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 740,000 บาท

รถผ่าครึ่งแนวตั้ง จากสุดยอดช่างในรัสเซีย

ชิ้นต่อไปพาไปชมฝีมือสุดยอดช่างในรัสเซีย ที่ปิ๊งไอเดียเอารถยนต์มาผ่าครึ่งในแนวตั้ง แต่ก็ยังทำให้ตัวรถวิ่งได้อยู่ โดยผลงานนี้เป็นของ วลาดิสลาฟ บาราเชนคอฟ (Vladislav Barashenkov) ช่างรถยนต์ประจำอู่ 54 (Garage 54) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักทำรถจากการสร้างรถยนต์ดัดแปลงในรูปแบบต่าง ๆ และคราวนี้เขาได้นำซากรถมาทำการตัดครึ่งคันในแนวตั้งและทำให้มันสามารถวิ่งไปได้รอบเมือง

โดยเขาและทีมช่างได้เอาซากรถทิ้งร้างมาตัดตัวถังทุกส่วนรวมไปถึงเบาะ เหลือเพียงส่วนของเครื่องยนต์ เพลาขับ และล้อที่ยังคงมี 4 ล้อ เหมือนเดิม โดยไม่ได้ตัดชุดเกียร์ออก ซึ่งทำให้ตัวรถที่ตัดแบ่งครึ่ง จะเหลือเพียงที่นั่งเดียวในแต่ละแถว และเอาระบบปรับอากาศออกไป แต่ดัดแปลงส่วนสำคัญเพื่อให้ตัวรถยังคงวิ่งได้ เช่นการปรับตำแหน่งชุดเกียร์ การปรับเปลี่ยนแนวท่อไอเสียใหม่ ตลอดจนการทำความสะอาดตัวถังที่เก่าและถูกทิ้งร้างมานาน

หลังดัดแปลงเสร็จก็ได้เอาไปลองขับรอบเมือง ซึ่งก็พบว่าตัวรถวิ่งได้จริง แต่มีปัญหาหลักคือความร้อนจากเครื่องยนต์หมุนวนในห้องโดยสารที่เหลืออยู่ เพราะไม่มีแอร์ช่วยคลายร้อน เนื่องจากได้ตัดระบบปรับอากาศไปพร้อมกับการผ่าครึ่งตัวรถแล้วนั่นเอง

เข็มขัดนำทางผู้พิการทางสายตา

ไปต่อกันที่นวัตกรรมสุดแปลกแต่ไอเดียดีจากสตาร์ตอัปในฮ่องกงกันบ้าง กับการพัฒนา เข็มขัดช่วยนำทางคนพิการทางสายตา ในชื่อว่า ไกดิ (GUIDi) ซึ่งเจะนำทางผู้ใช้ด้วยระบบสั่นและเสียงกริ่ง

โดยลักษณะภายนอกของเข็มขัด ทำจากไนลอนยาว 29 เซนติเมตร หนัก 560 กรัม ด้านหน้ามีกล้อง 2 ตัวใช้ตรวจจับภาพ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ไลดาร์ (LiDAR) / เรดาร์ (RADAR) และใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล

ส่วนด้านหลังเป็นโมดูลไมโครโปรเซสเซอร์ และโมดูลอิเล็กทรอนิกส์ในการคำนวณผลต่าง ๆ บริเวณด้านข้างจะมีเครื่องตอบสนองระบบสัมผัส 2 เครื่องติดตั้งอยู่ มีอักษรเบรลล์เพื่อบอกปุ่มเปิด-ปิด และบอกทิศทางซ้ายขวา เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานของผู้พิการทางสายตา ทำงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม สามารถใช้งานได้นาน 8 - 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

นอกจากนี้ ตัวเข็มขัดยังสามารถเชื่อมต่อ GPS และสัญญาณ Wi-Fi และเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านบลูทูธได้ หรือจะเลือกใช้งานแบบไม่ต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ก็ทำได้เช่นกัน

สำหรับการทำงาน เมื่อใส่เข็มขัดแล้วเดิน กล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล 2 ตัวจะสแกนสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง ระบบประมวลผลก็จะคำนวณหาเส้นทางเดินที่เหมาะให้แบบเรียลไทม์ จากนั้นเครื่องตอบสนองระบบสัมผัส ก็จะสั่นแจ้งเตือนว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ทิศทางไหนบ้าง และนำทางผู้ใช้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง จึงสามารถใช้นำทางได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

นอกจากนี้ บริษัทอ้างว่าตัวเข็มขัดยังใช้จับสภาพแวดล้อมได้ไกลถึง 5 เมตร ไกลกว่าการใช้ไม้เท้านำทางธรรมดา ที่ทำได้เฉลี่ย 0.73 เมตร นั่นเท่ากับกว่าเข็มขัดตรวจจับได้ไกลกว่าไม้เท้าถึง 7 เท่า อีกทั้งยังสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางอย่างกิ่งไม้ที่ยื่นมาขวางบริเวณด้านบนได้อีกด้วย

เข็มขัดอัจฉริยะนี้ ผลิตโดยบริษัทสัญชาติฮ่องกง เอไอ ไกด์ (AI Guided) อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่ได้มีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ผู้พิการทางสายตา หรือผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามไปยังบริษัท ณ เว็บไซต์ (คลิก) เพื่อขอทดลองใช้งานได้ฟรี

และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวอย่างนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์สุดแปลก ที่ไม่ได้เพียงแค่โชว์ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเรียกเสียงฮือฮา หรือว่าทำเพื่อเสียงหัวเราะเท่านั้น แต่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การต่อยอดไปเป็นผลงานที่ช่วยยกระดับชีวิต และใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายมากขึ้นด้วย

ข้อมูลจาก tnnthailand, tnnthailand, voi.id, tnnthailand