รีเซต

EGCO เร่งขยายฐานลงทุน ปั๊มรายได้-พอร์ตไฟฟ้าพุ่ง

EGCO เร่งขยายฐานลงทุน ปั๊มรายได้-พอร์ตไฟฟ้าพุ่ง
ทันหุ้น
9 มีนาคม 2565 ( 11:50 )
166
EGCO เร่งขยายฐานลงทุน ปั๊มรายได้-พอร์ตไฟฟ้าพุ่ง

ข่าววันนี้ EGCO ส่งซิกผลงานปี 2565 เติบโตจากปีก่อน หลังปูทางร่วมค้ากับยักษ์ใหญ่ในต่างแดน ทั้งโรงไฟฟ้า”ลินเดน โคเจน”ประเทศสหรัฐ, โรงไฟฟ้า”หยุนหลิน”ในไต้หวัน และโรงไฟฟ้าน้ำเทิน1 ในลาว และการลงทุนระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หวังสร้างผลตอบแทนแข็งแกร่ง และโอกาสขยายลงทุนใหม่ๆ พร้อมจัดงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาทต่อปีรองรับ

 

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยแนวโน้มผลงานปี 2565 คาดว่าจะเติบโตจากปี 2564 ที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 42,093 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน 10,218 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,103.84 ล้านบาท

 

จ่อบุ๊กเงินลงทุน

 

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าไปขยายการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ การซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ “ลินเดน โคเจน” และการซื้อหุ้นใน “เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง” ที่เป็นผู้นำการพัฒนา การขาย และการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานสะอาดในสหรัฐอเมริกา ที่มีโครงการอยู่ในมือ 188 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 42,774 เมกะวัตต์

 

ทั้งนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่บริษัทเข้าไปลงทุนเนื่องจากโรงไฟฟ้าลินเดน อยู่ใกล้กับรัฐนิวเจอร์ซีย์ และรัฐนิวยอร์ก คาดว่าแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับผลตอบแทนจากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ขณะที่โรงไฟฟ้า”หยุนหลิน”ในประเทศไต้หวันซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 640 เมกะวัตต์ ก็มีศักยภาพจากกระแสลมที่ดีในการผลิตไฟฟ้า ทยอยจ่ายไฟฟ้าได้บางส่วน และยังมีโรงไฟฟ้าน้ำเทิน1 ในประเทศลาว คาดว่าจะให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2565 อีกทั้งการลงทุนระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือเส้นทางสระบุรี-ขอนแก่น คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1/2565จะเข้ามาสร้างผลตอบแทนแข็งแกร่งในอนาคต

 

ขยายฐานธุรกิจเพิ่ม

 

นอกจากนี้บริษัทยังมองโอกาสขยายลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศโดยเน้นพลังงานหมุมเวียน ที่จะมรองรับพลังงานสีเขียวในอนาคต และลงทุนด้านฟินเทคในกลุ่มสตาร์ทอัพ เพื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนต่อยอดและพัฒนาในการซื้อขายไฟฟ้า โดยตั้งงบลงทุนแต่ละปีประมาณ 30,000 ล้านบาท

 

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน จำกัด(มหาชน) ระบุว่าแนวโน้ม Upside ต่อกำไรปกติปี 2565 ราว 137-650 ล้านบาทหรือราว 1.2-5.9% คิดเป็นต่อหุ้นราว 0.26-1.23 บาทต่อหุ้น หากการขายโครงการโรงไฟฟ้า APEX ทำได้สำเร็จตามที่ผู้บริหารคาดหวัง ทั้งนี้ในส่วนของแผน COD ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีโครงการ Yunlin ที่เลื่อนCOD ไปบางส่วนราว 80 MW หรือ1.2%ของ MW ในมือ

 

ส่วนโครงการระหว่างการเจรจายังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ และยังคงมีมุมมองกำไรปกติไตรมาส 1/2565 โต Y-Y ทรงตัว Q-Q โดยโต Y-Yเพราะรายได้และ GPM เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าขนอมกลบส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง-7% เพราะโรงไฟฟ้า NTPC ผลิตไฟกลับสู่ปกติและโรงไฟฟ้า BLCP ค่า AP ลดลง ส่วนทรงตัวQ-Q เพราะส่วนแบ่งกำไรที่+49%QoQ จาก 1.โรง Paju เข้าสู่ High Season 2.โรง SBPLออกจากปิดซ่อมและ3.โรงKK2+BLCP ออกจาก Low Season กลบกำไรที่ลดลงของโรง QPL ที่เข้าสู่ช่วงปิดซ่อม

 

วางเป้าราคา 257 บ.

 

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 257 บาทต่อหุ้น ในสภาวะที่มีความเสี่ยง Geopolitical รัสเซีย-ยูเครน ฝ่ายวิจัยมองว่า EGCO เป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่ม เพราะมีสัดส่วนการขายไฟ IU ต่ำและโรงไฟฟ้าในต่างประเทศอย่าง Linden ในสหรัฐใช้แหล่งก๊าซภายในประเทศและเศรษฐกิจมีโอกาสได้รับผลกระทบน้อยกว่ายุโรป โรงไฟฟ้าถ่านหินในฟิลิปปินส์ (QPL+SBPL) สามารถส่งผ่านต้นทุนให้ผู้ซื้อไฟฟ้าได้

 

โดยคงมุมมองธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อเนื่องในระยะยาวจากการทยอย COD โรงไฟฟ้าใหม่อย่าง Yunlin และNT1PC รับรู้แรงเสริม Linden เต็มปีและโรง SBPL ผลิตไฟได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดกำไรปกติปี 2564-2566 เติบโตเฉลี่ย12% CAGR

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง