ทำความรู้จักเทคโนโลยีเรือหลวงสุโขทัย ก่อนอับปางกลางอ่าวไทย

เรือหลวงสุโขทัย หรือเอฟเอส-442 (FS-442) ถูกตั้งชื่อตามอาณาจักรสุโขทัยในอดีต อันเป็นเรือของกองทัพเรือไทยที่ถูกสร้างโดยบริษัท ทาโคมา โบ้ท บิลดิ้ง (Tacoma Boat Building Co.) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1984 และขึ้นประจำการในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1987 

วันที่ 18 ธันวาคม 2565 เรือหลวงสุโขทัยของกองทัพเรือ อับปางลงในทะเล หลังจากพบกับคลื่นลมที่รุนแรงในอ่าวไทย น้ำได้ทะลักเข้าระบบไฟฟ้าและทำให้เครื่องยนต์ของเรือหยุดทำงานจนเรือสูญเสียการควบคุม ก่อนที่จะอับปางลงในเวลาประมาณ 23.30 น. รายงานล่าสุดวันที่ 19 ธันวาคม 2565 เวลา 12.00 น. กอบทัพเรือและทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือลูกเรือ 76 คน และกำลังค้นหาลูกเรืออีก 31 นาย

โดยเรือหลวงสุโขทัยมีระยะทางปฏิบัติการไกลสุดถึง 3,568 ไมล์ หรือ 5,742 กิโลเมตร และมีระวางขับน้ำปกติที่ 840 ตัน ในขณะที่ระวางขับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 960 ตัน ส่วนของความยาวตลอดลำอยู่ที่ 76.8 เมตร, ความกว้าง 9.6 เมตร และกินน้ำลึก 4.5 เมตร มีความเร็วมัธยัสถ์อยู่ที่ 18 นอต หรือ 33.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุด 24 นอต หรือ 44.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังมีกองพลประจำเรือได้ถึง 106 นาย

ระบบอาวุธ 

สำหรับระบบอาวุธที่น่าสนใจบนเรือ ได้แก่

• ปืน 76/62 มม. จำนวน 1 กระบอก
• ปืน 40แอล70 (40L70) มม. แท่นคู่ 1 กระบอก
• ปืน 20 มม. 2 กระบอก
• ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น แบบฮาร์พูน 2 แท่น (8 ท่อยิง)
• ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศ แบบอัลบราทรอส 1 แท่น (8 ท่อยิง)
• ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น (6 ท่อยิง)

เทคโนโลยีอื่น ๆ  

ในขณะที่เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่

• เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำเดคคา (Decca) 1226
• เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศซีดับเบิลยู-06 (ZW-06)
• เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศดีเอ-05 (DA-05)
• โซนาร์ติดใต้ตัวเรือเอสทีเอ็น แอตลาส ดีเอสคิวเอส-21ซี (STN Atlas DSQS-21C)
• เรดาร์ควบคุมการยิงดับเบิลยูเอ็ม-25 (WM-25)
• แอลไออาร์โอดี-8 ออฟติคัล (LIROD-8 optical)
• ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
• เครื่องจักรใหญ่ดีเซลเอ็มทียู 20วี1163 ทีบี83 (MTU 20V1163 TB83) 2 เครื่อง
• เพลาใบจักร 2 เพลา

ข้อมูลจาก Wikipedia

ภาพจาก เรือหลวงสุโขทัย FSG - 442