เพจแฉอาแปะไม่ยอมขายตึกสร้างคอนโดเรียกราคาสูง สุดท้ายกระแสตีกลับลบโพสต์
วันนี้ ( 16 มิ.ย. 63 ) เป็นประเด็นร้อนโลกโซเชียล เมื่อเพจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพจหนึ่งตีแผ่ เรื่องราวของการเจรจาเพื่อซื้อตึกแถวสร้างคอนโด แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเจรจาต่อรองเพื่อขอซื้อในราคาที่เสนอได้ ทำให้แอดมินนำเรื่องมาเผยแพร่ลงเพจ โดยระบุข้อความว่า
“หลายคนคงแปลกใจใช่ไหมครับ ว่าเหตุใดทางโครงการ... จึงไม่ซื้อตึกแถวห้องนี้ เรื่องจริงคือ ต้องการซื้อ แต่เจ้าของต้องการราคาสูงเกินจริง ผมคือหนึ่งในคนไปกล่อมเจ้าของ ถึง จ. อยุธยา เพราะเจ้าของได้ปฎิเสธ การติดต่อทุกช่องทาง กับทีมงานผมใช้วิธีการหาที่อยู่ จากใบเสร็จค่าไฟ ที่เสียบไว้หน้าบ้าน กับconnectionนิดหน่อย
เมื่อไปถึงชายสูงวัย รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการมาหาของผมครั้งนั้น หลายคำพูดเชิงไม่ให้เกียรติ ทั้งที่เราเอาเงินมาให้ ด้วยตัวเลขที่สูงมาก สำหรับตึกแถวร้าง1ห้อง ซึ่งโครงการได้วิธีการออกแบบ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อตึกแถวห้องนี้เลย แต่ด้วยความมั่นใจของเจ้าของไม่รู้แกไปศึกษาจากไหน ว่ายังไงโครงการขึ้นไม่ได้แน่นอนหากไม่ซื้อตึกแถวของเค้ากับประโยคที่พูดซ้ำๆใส่หัวผม "อั๊วแก่แล้ว เป็นโรคหัวใจ อยากได้ตัวเลขสมน้ำสมเนื้อหน่อย"
ผมถือตัวเลขสุดท้ายที่ทางเจ้าของต้องการ โดยไม่มีการบวกเพิ่มแม้แต่บาทเดียว
แจ้งผ่านทีมงานโครงการ ผลลัพธ์ จึงเป็นแบบที่เห็นละครับ ทุกครั้งที่ผ่านตรงนี้ ได้อุทาหรณ์ เสมอว่า "คนเราโชคมาแล้ว เอาแค่พอดี อย่าโลภ” เจตนาของโพสต์ นี้ไว้เตือนสติทุกคน ไม่ว่าจะต่อรองอะไร อย่าไปบีบอีกฝ่ายจนเกินไป แทนที่จะได้ 10 กลายเป็น 0 ไปซะอย่างนั้น (ตัวเลขสมมตินะครับ)
ซึ่งหลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าทัวร์ลงกระแสตีกลับทันที เนื่องจากเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะนำเรื่องของลูกค้า พร้อมรูปตึกที่โครงการอยากได้มาโพสต์แฉเช่นนี้ อีกทั้งการซื้อขายเป็นสิทธิ์ของผู้ขายว่าจะขายราคาเท่าไร
นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่คาดว่าเป็นผู้มีส่วนในเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว ไปโพสต์ตั้งคำถามยังโครงการระบุว่า. “ ขอสอบถามโครงการว่าทางบริษัทมีนโยบายถ่ายรูปและเอาเรื่องของลูกค้ามาดูหมิ่นด้วยข้อความดังในภาพนี้เป็นนโยบายของบริษัทรึเปล่าครับ และในอนาคตถ้าไม่มีคนขายที่ให้ทำคอนโดจะโดนถ่ายรูปแล้วเอามาแขวนในโซเชี่ยลอีกไหมครับ ขอบคุณ”
งานนี้ชาวโซเชียลต่างเชียร์เจ้าของกรรมสิทธิ์ให้ฟ้องหมิ่นประมาทเนื่องจากมีการนำประเด็นที่อาแปะเป็นโรคหัวใจมาล้อเล่น ซึ่งโพสต์นี้ล่าสุดเจ้าของเพจได้ลบทิ้งไปแล้วเรียบร้อย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online