รีเซต

ไฟป่าไอบีเรียมอดแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ แหล่งน้ำปนเปื้อนทำระบบนิเวศพัง

ไฟป่าไอบีเรียมอดแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ แหล่งน้ำปนเปื้อนทำระบบนิเวศพัง
TNN ช่อง16
15 พฤศจิกายน 2568 ( 11:30 )
12

ภูมิภาคในคาบสมุทรไอบีเรียของยุโรปเผชิญกับหนึ่งในเหตุการณ์ไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีสาเหตุจากคลื่นความร้อนและภัยแล้งที่โหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทางตอนใต้ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าไฟป่าจะดับลงและผ่านมาแล้วกว่า 4 เดือน แต่หลายพื้นที่ในสเปน   โดยเฉพาะแคว้นกาลิเซียทางตะวันตกเฉียงเหนือกำลังเผชิญกับผลกระทบที่เกิดจากไฟป่า และส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ เนื่องจากแหล่งน้ำในพื้นที่มีการปนเปื้อนเถ้าถ่านจากการเผ้าไหม้ น้ำประปาที่เคยอุปโภคบริโภคกลายเป็นสีดำจนไม่สามารถใช้ได้

 

ถึงแม้ว่าฤดูร้อนบางปีจะมีอากาศร้อนจัดจนเกิดไฟป่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในภูมิภาคคาบสมุทรไอบีเรีย แต่สำหรับปีนี้ ไฟป่าลุกลามหนักกว่าปกติ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้ง มีเชื้อเพลิงจำนวนมาก ประกอบกับลมแรง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

ผู้คนราว 42,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ และกลับมาอีกครั้งเพื่อพบกับซากปรักหักพังจนแทบจำบ้านหลังเก่าของพวกเขาไม่ได้ พื้นที่การเกษตรถูกไฟป่าโหมทำลาย สัตว์เลี้ยงล้มตาย เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งต้องสูญเสียรังผึ้งไปมากกว่า 7,000 รัง นอกจากนี้ควันไฟยังถูกลมพัดจนลอยไปไกลถึงฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ ข้อมูลจากสำนักงานสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัสของสหภาพยุโรประบุว่า ไฟป่าครั้งใหญ่ในคาบสมุทรไอบีเรีย ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนพุ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 

แม้ว่าผลกระทบในช่วงระยะสั้นจะน่ากังวล แต่ผลกระทบจากไฟป่าในระยะยาวอาจสร้างความกังวลได้มากกว่า เมื่อชั้นพืชที่เคยปกคลุมดินซึ่งทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำคอยดูดซับน้ำจากธรรมชาติลงสู่ชั้นดินถูกทำลาย ดินจะไม่สามารถอุ้มน้ำเอาไว้ได้อีก ในอนาคตอาจเกิดภาวะขาดแคลนน้ำ เนื่องจากน้ำฝนจะไหลลงสู่ลำธารโดยตรง เถ้าถ่านจากการเผาไหม้อาจหลุดลอดลงสู่ทะเล กระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการฟื้นฟู

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง