รีเซต

แม่อุ้มลูกติดโควิด ส่อคดีพลิก! จนท.รพ.แจง ไม่ให้ไทม์ไลน์ ขอแอดมิทเอกชน

แม่อุ้มลูกติดโควิด ส่อคดีพลิก! จนท.รพ.แจง ไม่ให้ไทม์ไลน์ ขอแอดมิทเอกชน
TNN ช่อง16
12 เมษายน 2564 ( 08:39 )
176
แม่อุ้มลูกติดโควิด ส่อคดีพลิก! จนท.รพ.แจง ไม่ให้ไทม์ไลน์ ขอแอดมิทเอกชน

วันนี้ (12 เม.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เฟซบุ๊กหนึ่งได้โพสต์ข้อความตั้งแต่เวลา 01.10 น.ที่ผ่านมา ระบุว่า “ตอนนี้อุ้มกับลูกติดโควิดอาการน้องแย่มาก ไปมา 3 โรงพยาบาลไม่มีที่ไหนรับเลย อุ้มไม่รู้จะทำยังไงแล้วใครก็ได้ช่วยพวกเราที” ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเฟซบุ๊กไลฟ์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ร้องไห้ในรถ กล่าวว่า ไปมา 3 โรงพยาบาลแล้วไม่มีใครรับเลย น้องไข้ขึ้นสูงมาก ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไม่รู้จะไปโรงพยาบาลไหนแล้ว ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับเลย”

กระทั่งต่อมาได้อุ้มลูกลงจากรถ ถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าทำไมเข้าไม่ได้ เด็กแค่ 10 เดือนเขาแย่แล้ว จริงๆ โรงพยาบาลเขาต้องรับ ครั้งนี้ครั้งที่ 4 แล้วเขาไม่รับ ลูกหนูก็แย่แล้วพี่ แล้วร่ำไห้ออกมา

ต่อมาได้เฟซบุ๊กไลฟ์ที่อีกโรงพยาบาลหนึ่งระบุว่าไม่รับอีกแล้ว เดินทางต่อไม่ไหวแล้ว กระทั่งได้รับการประสานให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ เขตสายไหม กรุงเทพฯ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : แม่ลูกติดโควิด ร้องไห้โดนรพ.ปฏิเสธ ล่าสุด รพ.ภูมิพล รับรักษาแล้ว)

ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ "หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor" โพสต์ข้อความโดยอ้างถึงบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่แม่ของลูกวัย 10 เดือนไลฟ์สด ระบุว่า "อาจารย์คะ พ่อแม่ลูก 10 เดือนนี้ มาที่ (โรงพยาบาล) หนูค่ะ รอบแรกเป็น ผอ. (ผู้อำนวยการ) เข้ากับพี่ตรวจการ (ผู้ตรวจการพยาบาล) พยาบาลและน้อง NA (Nursing Assistant หรือพนักงานช่วยการพยาบาล) ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้บอกไทม์ไลน์แน่ชัด ซักประวัติไปมา ไปเที่ยวร้านเหล้าที่หัวหิน ไปห้างที่หัวหิน เสียดายเค้าลบโพสนั้นไปไม่ได้แคปไว้ หลังจากผลบวก ประสานหาเตียงให้ได้ ... (ชื่อโรงพยาบาลที่ไลฟ์สด) เวลาในช่วงทำการ บอกไม่ไป ผมมีเงิน ผมมีตังค์จะไปเอกชน ไม่เอารัฐบาลด้วย มีเงินมีปัญญาจ่าย และน้ำเสียงถ้อยคำที่ดูถูกเจ้าหน้าที่ ไม่ให้พ่อออกจากห้อง Negative (ห้องความดันลบ) เพราะจะแพร่เชื้อก็ไม่ฟัง เดินเข้าเดินออก ต้องห้ามกันหลายๆ ครั้ง และยังขอสูบบุหรี่ในห้องด้วย เราต้องห้ามถึงสงบลง

แม่ก็ไม่จับ ไม่เช็ดตัว ไม่ป้อนยาเลย พยาบาลกับน้องผู้ช่วยเราทำตามจรรยาบรรณทุกอย่าง ทำทุกอย่างที่ควรทำ เช็ดตัวให้ก็บอกว่าพอแล้วลูกร้อง ต้องบอกว่าถ้าไม่เช็ดน้องจะไข้ขึ้นสูงชักได้ ถึงยอมให้เช็ด เช็ดเสร็จก็ปล่อยลูกไว้เอาผ้าห่มมาล้อมน้องไว้ เราบอกระวังน้องตกนะคะ ก็มองหน้าเราอีก มีตวาดเสียงใส่ด้วยว่าทำไมไม่ไม่ได้ ผมจะนอนที่นี่ ผมมีตังค์ เราแจ้งว่าประสานให้โรงพยาบาลที่รับโดยตรงก็ไม่เอา จะไปเอกชนที่ดารานอน

แนะนำให้กลับบ้านก่อนห้ามออกไปไหน เราจะหาเตียงให้ แต่พ่อแม่ไม่ยอม ไม่พอใจห้องที่เราแนะนำและสอนวิธีเช็ดตัวลดไข้ แนะนำการทานยาลดไข้ก็ไม่สนใจฟัง จนมาอีกทีเที่ยงคืน จะขอแอดมิท (ขอรับเข้าเป็นผู้ป่วยใน) เราเตรียมห้อง Negative ให้ ไม่พอใจ อยากได้ห้องที่เป็นสัดส่วน ถ้าจะนอนตอนนี้ที่จัดเตรียมคือห้องนี้ เพราะด้านบนเรายังมีผู้ป่วยปกติอื่นๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งผู้ป่วย Burn (แผลไฟไหม้) จากแก๊สระเบิด ไม่สามารถย้ายขึ้นด้านบนได้ ขอให้อยู่รักษาในห้องนี้ไม่พอใจ จึงให้เซ็นเอกสารปฏิเสธที่เรา

แต่เราก็ไม่ได้ทิ้ง เราพยายามช่วยหา ติดต่อ 1668 (กรมการแพทย์) เวลานั้น 01.15 น. ไม่มีใครรับเพราะนอกเวลาทำการ ติดต่อ 1422 (กรมควบคุมโรค) แม่เป็นคนโทร. พอทาง 1422 ตามที่อยู่จะส่งรถมารับ พ่อปฏิเสธ ถ้าจะมีรถพยาบาลมารับคนอื่นจะรู้ไม่เอา ให้แม่รีบวางสาย เราแจ้งให้นอนพักก่อน แล้วเวลา 08.00 น. เวลาทำการจะประสานให้อีกครั้ง ไม่พอใจบอกจะพาลูกไปหาโรงพยาบาลที่อยู่ด้วยกันได้ แล้วพาลูกออกไป แล้วมารู้อีกทีคือไปไลฟ์สดแล้วค่ะ ลูกมีไข้ป้อนยาแล้วอ้วกก็ไม่ป้อนซ้ำ ทางเรายินดีทำให้ทักอย่างด้วยความเต็มใจเพราะสงสารเด็ก ขออนุญาตเล่าให้ฟังนะคะ แต่ไม่ขอออกสื่อนะคะ ผู้บริหารบอกว่าเราทำเต็มที่แล้ว ดูแลเต็มที่ นั้นคือความจริง ในสื่อจะเป็นอย่างไรไม่เป็นไร แต่คนเข้าค่ะ เครียดมาก เมื่อคืนพากันนั่งร้องไห้กับน้องๆ น้อยใจ เสียใจ พากันด่า พากันว่าเรา แต่ไม่เห็นถามเรื่องราวทั้งหมด"


ข่าวที่เกี่ยวข้อง