5 วิธีประหยัดค่าไฟ รับมือค่าไฟขึ้นปี 2023
ตามการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยว่า ค่าไฟฟ้าในปี 2023 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่อยู่ราว 4.18 บาทต่อหน่วย คิดเป็น 4.85 บาทต่อหน่วย และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงได้รวบรวม 5 วิธีประหยัดค่าไฟฟ้า เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 ดังนี้
ล้างเครื่องปรับอากาศ
เมื่อใช้เครื่องปรับอากาศไปเป็นเวลานาน จะมีฝุ่นเข้าไปสะสมในเครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศสามารถทำความเย็นได้น้อยลง และใช้พลังงานมากขึ้น การล้างทำความสะอาดไส้กรองจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง
ตั้งอุณหภูมิให้สูงกว่า 25 องศาเซลเซียส เล็กน้อย
แม้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จะเป็นอุณหภูมิที่ทำให้ร่างกายสบายที่สุด แต่อุณหภูมิที่ 26 - 27 องศาเซลเซียส จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และไม่ได้แตกต่างจากอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส มากนัก
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศในที่โล่ง
การใช้เครื่องปรับอากาศในบริเวณพื้นที่โล่ง เช่น โถงทางเดิน จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อสร้างความเย็นให้ครอบคลุมพื้นที่ ดังนั้นหากจำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศในที่โล่ง การเลือกใช้ตัวช่วยอย่างกำแพงกั้นชั่วคราวจึงเป็นตัวเลือกที่ดี
เปิดพัดลมช่วย
การเปิดพัดลมก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศจะทำให้อุณหภูมิห้องเย็นลง ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง รวมถึงการเปิดพัดลมขณะเปิดเครื่องปรับอากาศก็ช่วยเช่นกัน เนื่องจากพัดลมจะช่วยกระจายอากาศเย็นไปรอบห้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง
หลีกเลี่ยงการนำของร้อน/ชื้นเข้ามาในห้อง
การนำของร้อนเข้ามาในห้องจะส่งผลให้อุณหภูมิห้องเพิ่มขึ้นตามหลักเทอร์โมไดนามิกส์ (Thermodynamics) เครื่องปรับอากาศที่มีการใช้พลังงาน 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อสร้างความเย็นจึงต้องทำงานหนักขึ้น สำหรับการปรับให้อุณหภูมิห้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ไม่เพียงเท่านี้ เครื่องปรับอากาศใช้พลังงาน 70 เปอร์เซ็นต์ ไปกับการกำจัดความชื้น การนำของชื้นเข้ามาในห้อง จึงส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจาก www.scb.co.th และ KResearch
ภาพจาก gettyimage.com, samsung.com, lg.com, pea.co.th