โควิดยังพุ่งต่อเนื่อง! ทั้งประเทศติดเชื้อเพิ่ม 2,230 ราย เสียชีวิต 38 ราย 'กทม.' มากสุด
วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) (ศบค.) โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิดวันนี้ ในการจัดลำดับของโลก ประเทศไทยอยู่ที่ลำดับที่82 โดยทั่วโลกมีผู้ป่วยแล้ว 171 ล้านคน ประเทศอินเดียยังพบติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 126,000 กว่าราย แต่ที่น่าสังเกตุในรอบประเทศบ้านเรา ประเทศกัมพูชาในรอบ 24 ชั่วโมงที่มีรายงานไปถึง 690 ราย สิงคโปร์ 23 ราย เวียดนาม 214 ราย ไต้หวันที่บอกว่าไม่ค่อยมีในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 278 ราย ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฟิลิปปินส์ 6,0000 กว่าราย มาเลเซีย 6,824 ราย
ทั้งประเทศติดเชื้อเพิ่ม 2,230 รายตาย 38 ราย
โดยสรุปในผู้ป่วยผู้ติดเชื้อรายใหม่ภาพรวมประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,230 ราย มาจากต่างประเทศ 21 ราย กรุงเทพมหานคร(กทม.) 864 ราย ปริมณฑล 5 จังหวัด 548 ราย จังหวัดอื่นๆ 71 จังหวัด 720 รายน้อยกว่ากทม.และปริมณฑลประมาณ 50% เรือนจำและที่ต้องขัง 77 รายลดลงจากเมื่อวาน
ติดเชื้อสะสมระลอกเมษายน 133,159 ราย กทม. 42,437 ราย ปริมณฑล 21,869 ราย จังหวัดอื่นๆ 41,713 ราย เรือนจำและที่ต้องขัง 26,330 ราย การเสียชีวิตทั้งประเทศ 38 ราย ยอดสะสม 975 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายใหม่มากสุดอยู่ที่กทม. 22 ราย ปริมณฑล 4 ราย จังหวัดอื่นๆ 10 ราย เรือนจำและห้องขัง 2 ราย
“ผู้เสียชีวิตใน 38 รายใหม่ กทม. มากสุด 22 ราย นครปฐม 3 ราย สมุทรปราการ 2 ราย อื่นๆจังหวัดละ 1 ราย เชียงราย จันทบุรี ชลบุรี ปทุมธานี สงขลา อุดรธานี พระนครศรีอยุธา ยังเป็นความเสี่ยงในโรคเหมือนเดิม คือเป็นโรคประจำตัว”
เปิดโผ 10 จังหวัดผู้ป่วยสูงสุด
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดลำดับ 10 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่ 1. กทม. 864 ราย สะสม 42,437 ราย 2.สมุทรปราการ 253 ราย สะสม 7,272 ราย 3.เพชรบุรี 166 ราย สะสม 5,912 ราย 4.ตรัง 164 ราย สะสม 665 ราย 5.นนทบุรี 112 ราย สะสม 6,917 ราย 6.สระบุรี 83 ราย สะสม 833 ราย 7.สมุทรสาคร 82 ราย สะสม 2,639 ราย 8.ปทุมธานี 61 ราย สะสม 3,683 ราย 9.ชลบุรี 47 ราย สะสม 4,714 ราย 10.นครปฐม 40 ราย สะสม 1,358 ราย
ส่วนรายละเอียด 21 รายมาจากต่างประเทศ มีทั้งอินเดีย 1 ราย จีน 1 ราย ไต้หวัน 1 ราย แคนาดา 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย เยอรมนี 2 ราย ตุรกี 2 ราย รัสเซีย 1 ราย ซาอุดิอาระเบีย 4 ราย ปากีสถาน 2 ราย อินโดนีเซีย 2 ราย กัมพูชา 3 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมศบค. ให้ความสำคัญเรื่องนี้ การลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านก็ยังมีอยู่ ทางที่ประชุมเน้นย้ำว่าฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครองชายแดนต้องดูกันอย่างเต็มที่ ตอนนี้ของทางกัมพูชามีลักลอบผ่านพรมแดนธรรมชาติมาถึง 87 คน เมียนมาร์ 40 คน ลาว 9 ราย มาเลเซียไม่มีตัวเลขราย รวมแล้ว 164 ราย
ขอความร่วมมือเวิร์คฟอร์มโฮม
“การติดเชื้อภาพรวมลดลง ส่วนกทม.และปริมณฑล ยังทำให้ภาพรวมยังไม่ลดลง รวมถึงต่างจังหวัดด้วย เรื่องของการเดินทางผ่านชายแดน โดยเฉพาะฝั่งกัมพูชาและมาเลเซีย ถึงแม้มาเลเซียจะยังไม่มีก็ต้องมีความเข้มงวดว่าในช่วงของการติดเชื้อเพราะทางประเทศมาเลเซียยังสูงอยู่ ส่วนสถานที่เสี่ยงยังคงเป็นโรงงาน แคมป์ก่อสร้าง ชุมชนแออัด ในครอบครัวก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงอยู่ ซึ่งมาตรการต่างๆมีประชุมคุยกันทุกวัน เพื่อให้นำไปสู่การปฎิบัติ ในที่ทำงานถ้าทำได้ขอให้เวิร์คฟอร์มโฮมให้มากที่สุด”นพ.ทวีศิลป์กล่าวทิ้งท้าย