รีเซต

ตลาดหุ้นสหรัฐลั้นลาต่ออีกปี วรรณ มองSETลุ้นแตะ 1,536 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐลั้นลาต่ออีกปี วรรณ มองSETลุ้นแตะ 1,536 จุด
ทันหุ้น
15 กุมภาพันธ์ 2568 ( 23:22 )
31

#บลจ.วรรณ #ทันหุ้น -บลจ.วรรณ เผยหุ้นสหรัฐยังไปต่อได้อีกปี ก่อนเลือกตั้งย่อยในสหรัฐปีหน้า ซึ่งจะชี้ทรัมป์จะกุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จต่อเนื่องหรือไม่ ส่วนตราสารหนี้ยังคงผันผวนหลังเฟด ท่าทีลดดอกเบี้ยช้าลง แต่ยังลงทุนต่อได้แต่มีให้รอจังหวะเหมาะ แต่รอยิลด์แตะ 5% เข้าลงทุนต่อ ขณะที่หุ้นไทยไปต่อหรือรอคอยอยู่ที่นโยบายรัฐหนุน เชื่อเห็น 1,530 จุด ปีนี้


นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด หรือ บลจ.วรรณ กล่าวว่า มุมมองต่อตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ยังคงไปได้อีกปี แต่ให้จับตาปี 2569 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งย่อยของสหรัฐ ซึ่งหากพรรครีพับลิกัน แพ้เลือกตั้ง ก็อาจส่งผลต่อการออกมตรการ และนโยบายต่างๆ ที่ทรัมป์หาเสียงไว้ ขณะที่หุ้นเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็ยังคงเป็นเมกะเทรนด์เติบโตระยะยาวที่สามารถลงทุนได้ต่อเนื่อง


ในส่วนของตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดชะลอตัวลงจากที่คาดว่าปรับลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้งในปีนี้ อาจเหลือเพียง 1 ครั้งเนื่องจากตัวเลขล่าสุดที่ประกาศออกมาอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังดี ดังนั้นสำหรับวรรณ แล้ว มองว่ารอจังหวะที่อัตราผลตอบแทนมาที่ระดับ 5% จะกลับเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้อีกครั้ง


ในส่วนของหุ้นไทย นายพจน์ กล่าวว่า ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นไม่ย้ำอยู่ที่เดิมคงเป็นเรื่องของนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ที่ส่งต่อยังบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ให้ยังคงขีดความสามารถในการทำกำไรต่อได้ ปัจจุบัน บริษัทในตลาดหุ้นไทยยังคงแข็งแกร่ง มีความสามารถในการทำกำไร สะท้อนว่าพื้นฐานแล้วยังคงดีอยู่ การสนับสนุนของภาครัฐไม่ว่าจะเรื่องของการท่องเที่ยว การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ หากเกิดขึ้นได้ไว ก็จะยังคงความสามารถในการสร้างผลประกอบการที่เป็นบวกให้กับบริษัทได้ ส่วนปีนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแตะที่ 1,530 จุด


นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด หรือ บลจ.วรรณ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง มาจากความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจโลก ภายใต้มหาอำนาจทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ได้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ซึ่งในมุมมองของนักลงทุน และผู้จัดการกองทุนค่อนข้างกังวลกับนโยบายทรัมป์ที่สร้างความไม่แน่นอนกับตลาด ทำให้นักลงทุน และผู้จัดการกองทุนเลือกที่จะขายสินทรัพย์เสี่ยงและถือเงินสดเพิ่มขึ้นในระยะนี้ ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย


อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทย ในมุมมองของ บลจ.วรรณ ยังเห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เพราะบริษัทแต่ละแห่งยังมีความสามารถในการทำกำไร ซึ่งต่างจากวิกฤติที่ผ่านมาต้มยำกุ้งที่ตอนนั้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอ่อนแอ ดังนั้นการปรับตัวลงในช่วงนี้ก็เป็นโอกาสในการเลือกลงทุนในหุ้นที่พื้นฐานดีมีคุณภาพ


“นอกจากแรงขายของ กองทุน LTFส่วนหนึ่งก็มาจากการปรับพอร์ตลงทุนของผู้จัดการกองทุนที่เลือกถือเงินสดมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ จากภาวะความไม่แน่นอนของตลาดโลกที่เกิดจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งเราก็มองแนวรับ ที่ 900 จุดไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาสดใสได้ไม่ใช่แค่เม็ดเงินLTF เข้ามาในตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่ภาครัฐออกมาเพื่อพัฒนาประเทศได้อย่าแท้จริง เป็นการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตให้ประเทศ ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่ LTF การแจกเงิน แต่หมายถึงการพัฒนาในองค์รวม”


นายมณฑล กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนหลักของภาครัฐในการพัฒนาประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อย่างโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นต้นเหล่านี้เป็น โปรเจ็กต์ที่สนับสนุนโครงสร้างเศรษฐกิจไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งหากโครงการภาครัฐเกิดขึ้นได้เร็ว หุ้นก็น่าจะขานรับทะลุ 1,300 จุด และมีโอกาสแตะ 1,470 จุด อย่างไรก็ตามเบื้องต้นนั้น 1,220-1,230 จุด ต้องยืนให้ได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง