รีเซต

"เฮียฮ้อ"ใจป้ำ"RS"ปันผล0.35บ. ชูEntertainmerceโตระเบิด

"เฮียฮ้อ"ใจป้ำ"RS"ปันผล0.35บ. ชูEntertainmerceโตระเบิด
ทันหุ้น
28 กุมภาพันธ์ 2565 ( 12:31 )
118
"เฮียฮ้อ"ใจป้ำ"RS"ปันผล0.35บ. ชูEntertainmerceโตระเบิด

ข่าววันนี้ สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า "RS"ปันผล 0.35 บาท มั่นใจปี 65 โมเดล Entertainmerceโตต่อ ชูเป้ารายได้ทั้งปีแตะระดับ 5,100 ล้านบาท

 

 

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ปี 2564 นับเป็นอีกปีที่ท้าทายของหลายๆ ธุรกิจ เพราะโควิด-19 ยังรุนแรงและส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แต่ด้วยโครงสร้างขององค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับตัวตลอดเวลา ทำให้ปี 2565 จะเป็นปีที่ดีของ อาร์เอส เพราะในปีที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจ และพัฒนาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้านวัตกรรมด้านสุขภาพหลากหลายประเภท  รวมถึงสินค้าเพื่อสุขภาพที่มาจากสารสกัดเมล็ดกัญชง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน และอาหารเสริมมัลติ ออยล์ พลัส น้ำมันเมล็ดกัญชง แบรนด์ well u, เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงค์ แบรนด์ CAMU C ที่มีวิตามินซีสูง 200% และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง แบรนด์ Lifemate พร้อมมุ่งเน้นขยายช่องทางออนไลน์ทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ให้สอดรับกับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal ส่วนในแง่ของธุรกิจสื่อและบันเทิง อาร์เอส กรุ๊ป เอง ได้สร้าง Popcoin ซึ่งเป็นสมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม เข้ามาช่วยยกระดับการทำงาน สร้างโอกาสทางการตลาด และมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ผลิตคอนเทนต์ สปอนเซอร์ และผู้บริโภค”

 

นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน RS เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงตลอดปี 2564 ทำให้อาร์เอส กรุ๊ป ต้องมีการปรับกลยุทธ์และการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้รายได้รวมจากการขายและบริการอยู่ที่ 3,573 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 127 ล้านบาท แม้รายได้ในปี 2564 ของอาร์เอส กรุ๊ป อ่อนตัวลง ผลจาก 1) ปัจจัยลบภายนอกที่ส่งผลกระทบในระยะสั้น เช่น กำลังซื้อที่ลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 อุตสาหกรรมโฆษณาที่หดตัวจากพิษเศรษฐกิจ และมาตรการต่างๆของภาครัฐ เพื่อคุมการแพร่ระบาด เช่น ห้ามจัดงานอีเว้นท์หรือคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ และ 2) RS ลงทุนพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึง M&Aทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2565 เศรษฐกิจของไทยจะกลับมาฟื้นตัวหลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย และจะเติบโตจากการลงทุนในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัท มีมติอนุมัติประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นอีกด้วย

 

การเตรียมความพร้อมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และแบรนด์จากปีที่ผ่านมา จะเป็นฐานให้บริษัทใช้สร้างยอดขายและพัฒนาสินค้า SKUs ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์เดิม โดยในปีนี้ ไลฟ์สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในเครือ RS มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 28 SKUs ซึ่งรวมถึงสินค้าจากสารสกัดเมล็ดกัญชงและ CBD ที่เราเป็นผู้นำจะช่วยให้ธุรกิจคอมเมิร์ซเติบโตได้เร็ว นอกจากนี้ ธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์จะสร้างรายได้จากการพัฒนาคอนเทนต์รูปแบบใหม่ในช่องทางออนไลน์ และการเข้าสู่ตลาด NFT รวมถึงรายได้จากกิจกรรมและคอนเสิร์ตที่จะกลับมา โดยจะมี Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ปัจจุบันมียอดผู้ลงทะเบียนเป็น Popster มากกว่า 7 แสนราย และแบรนด์ต่างๆ เริ่มมีการนำ Popcoin ไปใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแล้ว นับเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ 

 

รวมถึงการเข้าซื้อธุรกิจขายตรง ยูไลฟ์ จากยูนิลีเวอร์ ที่มีศักยภาพที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม และเครือข่าย Business partner ที่แข็งแกร่งกว่า 150,000 ราย โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ปีแรกประมาณ 900 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะผลักดันและสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อให้ ยูไลฟ์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567 ซึ่งการเข้ามาเสริมทัพด้วย ยูไลฟ์ จะส่งเสริมให้โมเดลธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นเป็น Lifestyle Wellbeing Solution เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างแน่นอน พร้อมช่วยสร้างการ synergy ภายในกลุ่มธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และทำให้ Ecosystem ของ RS ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และจะสามารถสร้างผลงาน New High ตามเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ 5,100 ล้านบาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง