JWD ผลงานโค้งท้ายพีค ดีมานด์โลจิสติกส์ทะลัก
#JWD #ทันหุ้น – JWD จับตาไตรมาส 4/2565 พีค ดีมานด์โลจิสติกส์ขยายตัวดีต่อเนื่อง ชูธุรกิจบริหารท่าเทียบเรือชายฝั่งขนส่งสินค้า-คลังสินค้า-ห้องเย็น เนื้อหอมอัตราการเช่าพื้นที่เต็มพิกัด มั่นใจรายได้ปี 2565 นี้โต 15% ยืนเหนือ 6 พันล้านบาท แย้มอยู่ระหว่างการเจรจาธุรกิจเพิ่ม ลุ้นปิดดีลใหม่ได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไม่น้อยกว่า 1ดีล
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565เชื่อว่ายังคงเห็นภาพการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากที่ประเทศไทยกลับมาเปิประเทศอีกครั้ง ทำให้การหลั่งไหลของเงินทุนต่างชาติมีเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
โดยนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เริ่มเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์อย่างชัดเจนตามการขยายตัวของการเข้ามาลงทุนในไทย รวมถึงบริษัทได้รับงานบริการโลจิสติกส์ใหม่จากลูกค้าผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่ธุรกิจบริหารท่าเทียบเรือชายฝั่งขนส่งสินค้า (Barge Terminal) นั้น ปัจจุบันบริษัทสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่มากขึ้น หลังจากปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องจักรแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ทำให้รองรับปริมาณงานเฉลี่ยต่อเดือนได้สูงกว่าครึ่งปีแรก
*ธุรกิจเติบโตดี
ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้านั้น ปัจจุบันคลังสินค้าทั่วไปภายในพื้นที่เขตปลอดอาการท่าเรือแหลมฉบังมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม สำหรับคลังสินค้าอันตรายบริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 และ 4/2565จะมีรายได้สูงกว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ พร้อมกันนี้ บริษัทยังรับรู้รายได้จากคลังสินค้าห้องเย็นแห่งใหม่ที่ทยอยเปิดบริการ ได้แก่ คลังสินค้าห้องเย็น PACM (ร่วมทุนกับบริษัท เอ็ม เอ็ม พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) พื้นที่รวม 10,800 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้ 20,000 พาเลต ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็มแล้ว หลังจากเปิดบริการเพียง 3-4 เดือน
ส่วนธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า (Self-Storage) ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนขยายการลงทุนร่วมกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ที่เป็นพาร์ตเนอร์ และ Fuze Post (ฟิ้วซ์ โพสต์), ธุรกิจให้บริการขนส่งด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิที่บริษัทร่วมทุนกับไปรษณีย์ไทยและแฟลช เอ็กซ์เพรส คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ อาทิ ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในประเทศไต้หวัน คาดว่าสามารถทำกำไรในปีนี้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง, ธุรกิจในกัมพูชา คาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยยังมีคลังสินค้า และลานจัดเก็บตู้สินค้า ที่ให้ยังบริการอีกด้วย
*ดีลลงทุนใหม่ๆ เพิ่ม
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง โดยตอนนี้มีที่อยู่ระหว่างเจรจาธุรกิจหลายราย เบื้องต้นมีโอกาสจะปิดดีลได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไม่น้อยกว่า 1 ดีล
พร้อมกันนี้ได้วางแผนรับมือผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยจะลงทุนรถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานไฟฟ้าเฟสแรก 10 คัน อย่างไรก็ดี บริษัทมีเงื่อนไขปรับขึ้นค่าขนส่งกับคู่ค้าในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดสูงขึ้น ดังนั้น จึงมั่นใจว่าจะทำรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนได้ตามเป้าหมาย
*เคาะเป้าหมาย 23 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มกำไรในช่วงไตรมาส 3/2565 และไตรมาส 4/2565จะดีขึ้นตามฤดูกาลและธุรกิจใหม่ที่เริ่มดำเนินการ ห้องเย็นโตดีมาก PACM Cold Storage เริ่มให้บริการเดือนเมษายน ปัจจุบันเต็ม 100%ห้องเย็นที่สระบุรีจะเริ่มให้บริการเดือนตุลาคมนี้ ส่วน PACT ที่ร่วมกับ TU จะเปิดในไตรมาส 1/2566 คลังสินค้ามี Occupancy Rate เต็มเกือบตลอดเวลา Self-Storage จะเปิดสาขาเพิ่มเดือนละ 1 สาขาร่วมกับ CPN ตั้งเป้าพื้นที่ให้บริการ 1 แสนตารางเมตร ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้ 1 หมื่นล้านบาท Net Margin 15% ภายในปี 2568-2569
ดังนั้นทางฝ่ายจึงเชื่อว่าเป็นไปได้ คงประมาณการกำไรปี 2565-2566เติบโต 32% และเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ทางฝ่าย แนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ระดับ 23 บาท