“อิรัก” พลิกเกมเศรษฐกิจ! ตั้งเป้าลดพึ่งพาน้ำมันภายใน 25 ปี

นายกรัฐมนตรีอิรักประกาศวิสัยทัศน์ “Iraq Vision 2050” วางเป้าหมายใหญ่ในการลดการพึ่งพารายได้จากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเฉพาะน้ำมัน ซึ่งเคยเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจมานานหลายทศวรรษ พร้อมดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางขนส่งเชื่อมเอเชีย-ยุโรป สร้างโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ผู้นำอิรักชี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศไม่สามารถพึ่งพาน้ำมันเป็นรายได้หลักได้อีกต่อไป ท่ามกลางกระแสโลกที่กำลังมุ่งสู่พลังงานสะอาดและการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ภายใต้เป้าหมาย “ลดการพึ่งพาน้ำมันภายใน 25 ปี” อิรักวางแผนปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน การเปิดเสรีภาคบริการ และการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมัน เช่น พลังงานทางเลือก เกษตรกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ และอุตสาหกรรมบริการขนส่ง

หนึ่งในโครงการเรือธงคือ “Development Road” ซึ่งจะเชื่อมต่อท่าเรือแกรนด์อัลฟาว (Al-Faw Grand Port) ทางตอนใต้ของอิรัก กับชายแดนตุรกี โดยผ่านโครงข่ายถนนและทางรถไฟความเร็วสูง ครอบคลุมระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้อิรักกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและยุโรป โดยคาดว่าจะรองรับสัดส่วนการค้าระหว่างภูมิภาคได้มากถึง 20% ซึ่งจะช่วยลดเวลาและต้นทุนการขนส่งทางทะเลผ่านคลองสุเอซ คาดว่าจะสามารถสร้างงานได้กว่า 1.5 ล้านตำแหน่ง และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชนบทและภูมิภาคต่าง ๆ ของอิรักได้อย่างเป็นรูปธรรม

นอกเหนือจากการกระจายโครงสร้างเศรษฐกิจ อิรักยังมุ่งสู่ การพึ่งพาตนเองในทรัพยากรพื้นฐาน ได้แก่ อาหาร น้ำ และพลังงาน ให้ได้ถึง 70% ภายในปี 2050 ผ่านโครงการฟื้นฟูเกษตรกรรม การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ขณะนี้ รัฐบาลกำลังจัดทำ “แผนแม่บทการพัฒนา” ฉบับสมบูรณ์ เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในลำดับถัดไป

วิสัยทัศน์ Iraq Vision 2050 ยังตระหนักถึงบทบาทของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัล ที่กำลังเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจโลกอย่างรวดเร็ว อิรักตั้งเป้าที่จะ ยกระดับทรัพยากรมนุษย์ โดยเปิดโอกาสให้ ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย ภาคประชาสังคม และเยาวชน มีส่วนร่วมในการวางอนาคตประเทศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจยุคใหม่ที่มีความมั่นคง ยืดหยุ่น และแข่งขันได้ในระดับโลก

แม้อิรักจะมีปริมาณสำรองน้ำมันอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ภายใต้ความไม่แน่นอนของราคาน้ำมัน และการผลักดันพลังงานสะอาดทั่วโลก ทำให้อิรักมองเห็นความจำเป็นในการปรับตัว การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเชิงกลยุทธ์ เช่น ท่าเรืออัลฟาว และทางรถไฟ Development Road อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หากสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงจากความไม่สงบทางการเมือง การคอร์รัปชัน และข้อจำกัดด้านสถาบันได้สำเร็จ

Iraq Vision 2050 จึงไม่เพียงเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามของประเทศในการหลุดพ้นจากวัฏจักรความเปราะบาง และเข้าสู่บทบาทใหม่ในเศรษฐกิจโลกที่ยั่งยืนและหลากหลายมากขึ้น