กระทรวงต่างประเทศจี้ "กัมพูชา" ทำตาม 3 ข้อเรียกร้อง รับผิดชอบปมทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด

วันนี้ (11 พ.ย.68) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 2 นาย และที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา
นายนิกรเดช กล่าวถึงกรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด โดยกองทัพบกยืนยันแล้วว่าเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวานนี้ เกิดจากการลักลอบวางระเบิดใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 4 คน จากเดิม 2 คน โดย 1 ใน 4 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าข้างขวาขาด กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอีกครั้งหนึ่งต่อทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้กองทัพบกได้ชี้แจงว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลาดตระเวน ที่ได้ทำการลาดตระเวนก่อนหน้านี้ จากการเข้าไปพิสูจน์ทราบจุดเกิดเหตุภายหลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ตรวจพบชิ้นส่วนทุ่นระเบิด PMN-2 ในพื้นที่ใกล้เคียงและตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ทุ่น บริเวณรอบรอบหลุมระเบิดด้วย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่าพื้นที่เกิดเหตุเคยเป็นจุดที่กัมพูชาลุกร้ำเข้ามาวางกำลัง จึงสรุปได้ว่าเป็นลักลอบเข้ามาวางระเบิดใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา
ขณะผลการประชุม สมช.เมื่อช่วงเช้านี้ ย้ำว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับถ้อยแถลง (Joint Declaration) ที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นเอกสารที่ฝ่ายไทยย้ำมาตลอดว่าเป็นแนวทางที่จะนำสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยความจริงใจและความสุจริตใจของทั้งสองฝ่ายในการปฏิบัติตาม โดยเมื่อเช้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุม สมช. และที่ประชุมได้ลงความเห็นว่าที่ผ่านมาไทยได้ยึดมั่นและมุ่งมั่นปฏิบัติตามถ้อยแถลงมาโดยตลอด และการดำเนินการก็มีความคืบหน้าในหลายเรื่อง แต่เป็นที่น่าผิดหวังที่ล่าสุดฝ่ายกัมพูชา เป็นฝ่ายละเมิดโดยลักลอบมาวางทุ่นระเบิดในฝ่ายไทย
ฝ่ายไทยถือว่าการกระทำนี้ เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพของไทย ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ เป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวาที่กัมพูชาเป็นรัฐภาคี สะท้อนถึงความไม่จริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการลดระดับความขัดแย้ง ด้วยเหตุผลเหล่านี้ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องระงับการดำเนินการตามถ้อยแถลง รวมถึงการส่งตัวทหารกัมพูชาที่ฝ่ายไทยควบคุมอยู่ 18 คนออกไปก่อน จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะแสดงความรับผิดชอบและให้ความมั่นใจได้ว่าจะดำเนินการต่าง ๆ ตามถ้อยแถลง โดยเฉพาะเรื่องของทุ่นระเบิดด้วยความจริงใจและสุจริตใจ
ในการนี้ฝ่ายไทยเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการ 3 เรื่องคือ 1.แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ 2.ดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าว 3.ดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) รับรู้และตรวจสอบ โดยฝ่ายไทยจะติดตามเพื่อประเมินท่าทีการตอบสนองของฝ่ายกัมพูชาก่อนจะพิจารณามาตรการอื่นๆของฝ่ายไทยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป อย่างไรก็ตามการดำเนินการอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตอธิปไตยของไทย สามารถดำเนินการฝ่ายไทยโดยฝ่ายเดียวจะยังคงดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และการปราบปรามออนไลน์สแกมเมอร์
สำหรับการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้โทรศัพท์ติดต่อ นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาเพื่อทำการประท้วงในเบื้องต้น 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวานนี้ขณะปฏิบัติราชการอยู่ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเมื่อเช้านี้
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังจะยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นอกจากนี้ฝ่ายไทยจะดำเนินการเรื่องนี้ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องรวมถึงดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวา โดยจะมีหนังสือถึงประธานรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาคือ ประเทศญี่ปุ่น และจะมีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติด้วย
ไทยจะเดินหน้าชี้แจงประชาคมระหว่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงส่งหนังสือดังกล่าวให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทราบด้วย โดยทั้งมาเลเซียและสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้สังเกตการณ์ในการลงนามในถ้อยแถลงที่ผ่านมา
โดยในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.68) กระทรวงการต่างประเทศจะจัดบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงท่าทีไทยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายสีหศักดิ์ ได้สั่งการให้เวียน ผลสรุปการชี้แจงที่จะชี้แจงต่อคณะทูตให้กับสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อให้ฝ่ายไทยชี้แจงต่อประเทศเจ้าบ้านต่อไป โดยฝ่ายความมั่นคงจะชี้แจงผ่าน AOT โดยขณะนี้นายอนุทิน และนายสีหศักดิ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเยี่ยมทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงรับฟังสถานการณ์จริงในพื้นที่ด้วย
ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพในดินแดน ไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ทำให้ข้อตกลงต่าง ๆ ในกรอบทวิภาคีและถ้อยแถลงได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความรับผิดชอบด้วยความจริงใจและสุจริตใจ ให้คำมั่นที่จะสอบสวนกรณีดังกล่าวอย่างจริงจังดำเนินการ ดำเนินการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ในช่วงตอบคำถาม นายนิกรเดช ยืนยันว่าไทยจะส่งหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปยังสหรัฐฯ และมาเลเซียไม่เกินพรุ่งนี้ พร้อมมองว่าความเสียเปรียบได้เปรียบอยู่ที่เนื้อหาของหนังสือว่าจะมีหลักฐาน ข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ได้มากเพียงใด หลักฐานของเราคือหลักฐานเชิงประจักษ์ และหลักฐานเชิงเหตุผล เช่นการวาง 3 ทุ่นระเบิดบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต ทั้งยังเป็นแนวปฏิบัติของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เป็นสิ่งที่เราชี้แจง เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือชี้แจงของไทยจะอ้างอิงตามหลักฐานที่น่าเชื่อถือ
เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาวางทุ่นระเบิดอย่างต่อเนื่อง ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาแสดงให้เห็นหรือไม่ว่า เป็นการไม่เคารพอนุสัญญาฉบับนี้ จะทำให้รัฐภาคีอย่างญี่ปุ่นในฐานะประธานจะต้องรู้สึกกังวลหรือไม่ นายนิกรเดช ระบุว่าเราจะตีความแทนญี่ปุ่นไม่ได้ แต่จากมุมมองของไทยที่เป็นรัฐภาคี หากมีรัฐภาคีประเทศใดประเทศหนึ่งกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในฐานะที่เป็นรัฐภาคี และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นติด ๆ กันถึง 7 ครั้ง ย่อมแสดงถึงความไม่เคารพในรัฐภาคี
ส่วนจะกระทบถึงความน่าเชื่อถือหรือไม่ คงไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ย่อมไม่ส่งภาพลักษณ์ที่ดีต่อตัวอนุสัญญา ทราบมาว่าตัวอนุสัญญาออตตาวาหลังจากที่มีหนังสือประท้วงไปก่อนหน้านี้ เขาได้ดำเนินการเรียกประเทศที่เราร้องเรียน ให้มาอธิบายข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับเลขาธิการสหประชาชาติ ในตอนที่ไทยไปประชุม UNGA ก็ได้มีการสอบถามเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเขาก็มีการติดตามอยู่อย่างใกล้ชิด
นายนิกรเดช ยังย้ำว่าไทยกังวลกรณีที่อาจจะเกิดการปะทะรุนแรง หลังมีการระงับถ้อยแถลงโดยฝ่ายไทย จึงเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการตามที่เงื่อนไข 3 ข้อของฝ่ายไทย พร้อมทั้งต้องแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยจริงใจและสุจริตใจ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
