เคาะแผนปลุกอสังหา CHEWA-CMCโดดรับ
ทันหุ้น - ครม.ไฟเขียวต่างชาติลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย ด้าน CHEWA ขานรับ แย้ม มีโครงการ เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ-อโศก พร้อมขายต่างชาติ พร้อมลุ้นคลอดนโยบายใหม่กระตุ้นเพิ่ม ฟาก CMC ชี้ส่งผลบวกระยะยาว ระบุเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย สร้างดีมานด์กลุ่มอสังหาเพียบ แย้มปัจจุบันขายให้ต่างชาติ 10%
นายภูเบศร์ สำราญเริงจิต รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการหลังการขาย ลูกค้าสัมพันธ์ และประชาสัมพันธ์ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ Flexible Plus Program ช่วยเหลือธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยชาวต่างชาติที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ภายใน 1 ปี จะได้รับ Thailand Privilege Card และสามารถขอ Work Permit เป็นกรณีพิเศษ เพื่อรองรับนักลงทุนต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง
พร้อมขายต่างชาติ
ทั้งนี้คาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ CHEWA จะรับอานิสงส์ เพราะมีโครงการพัฒนาและขายให้กับนักลงทุน หรือชาวต่างชาติ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ มูลค่า 1 พันล้านบาท และ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก มูลค่า 1.69 พันล้านบาท
ขณะที่โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ เริ่มโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีสัดส่วนลูกค้าหลักคือกลุ่มลูกค้าในประเทศ ส่วนลูกค้าต่างประเทศยังมีสัดส่วนน้อย หรือไม่ถึง 5%นอกจากนี้การอนุมัติโครงการ Flexible Plus Program ช่วยเหลือธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แล้ว บริษัทต้องการมาตรการอื่น เพื่อกระตุ้นธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น มาตรการผ่อนคลายของ LTV และภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือการขยายเพดานการกู้ จะทำให้กลุ่มที่มีกำลังซื้อกลับมามากขึ้น
อสังหาโค้งท้ายฟื้นชัด
บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสสุดท้าย หรือไตรมาส 4/2564 จะเริ่มเห็นภาพฟื้นตัว โดยส่วนหนึ่งมาจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่กักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ คาดจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และอาจจะทำให้เศรษฐกิจมีการเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ด้าน นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด หรือ CMC เปิดเผยว่า บริษัทมองทิศทางธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้จะฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย คาดจะสนับสนุนการลงทุนโดยภาพรวมในประเทศให้กลับมา ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะขับเคลื่อนได้ตามการฟื้นตัวของภาพโดยรวม
ขณะที่การอนุมัติการช่วยเหลือธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยอนุมัติ Flexible Plus Program นั้น แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1. การอนุมัติการช่วยเหลือ คาดว่าจะเป็นผลดีในอนาคตระยะยาว แต่ในระยะสั้นยังต้องติดตามเรื่องกฎหมาย และข้อกำหนด ส่วนข้อที่ 2 คือนักลงทุนต่างชาติที่จะมาขยายธุรกิจในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ต้องติดตามเรื่องข้อบังคับกันต่อไปเช่นเดียวกัน
เปิดประเทศดีมานด์ล้น
อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยว และนักลงทุนเข้าประเทศไทย จะช่วยสร้างดีมานด์อสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงที่โควิด-19 ระบาด และบริษัทมีซัพพลายพร้อมรองรับ หากมีดีมานด์เกิดขึ้นจริง ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายอสังหาริมทรัพย์ให้ต่างชาติประมาณ 10%
ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) รวมมูลค่าประมาณ 2.1 พันล้านบาท มีห้องว่างรอการขาย (Inventory) รวมมูลค่าประมาณ 2.83 พันล้านบาท ขณะที่การเปิดโครงการใหม่ บริษัทมีความระมัดระวังในการเปิดโครงการ เพราะเศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างชะลอตัว