รีเซต

ฉีดแบต2.4หมื่นล. EAรับก่อน1.2พันล.

ฉีดแบต2.4หมื่นล.  EAรับก่อน1.2พันล.
ทันหุ้น
3 กุมภาพันธ์ 2566 ( 07:15 )
41

#EA #ทันหุ้น - บอร์ดอีวีเคาะแพ็กเกจส่งเสริมผลิตแบตเตอรีวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท สำหรับการผลิตแบตเตอรีระดับเซลล์ในไทย เงื่อนไขให้กิโลวัตต์ละ 600 บาท EA รับเต็มผลิต 2 กิกะวัตต์ รับ 1.2 พันล้านบาท ชี้ทั้ง EA,  NEX และ BYD  น่าสน แนะเก็งงบ NEX พลิกบวก ปีนี้กำไร 1.2 พันล้านบาท

 

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) มีมาตรการในการสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรีสำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เห็นชอบหลักการของมาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรีด้วยการให้เงินสนับสนุนวงเงิน 24,000 ล้านบาท ในปี 2567

 

ส่วนปี 2566 จะมีวงเงินสนับสนุนราว 3,000 ล้านบาท สำหรับการผลิตแบตเตอรีระดับเซลล์ในประเทศไทย การให้เงินสนับสนุนจะอยู่บนหลักการ ที่จะลงทุนผลิตก่อน ได้รับเงินสนับสนุนก่อน

 

อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ ยังไม่ได้สรุปถึงเรื่องของแหล่งเงินที่จะมาใช้ ซึ่งจากนี้ไปจะมีการหาข้อสรุปกันให้ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะนำมาเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

 

*ลุยสนับสนุนแบตอีวี

 

สำหรับคุณสมบัติแบตเตอรีสำหรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิตามมาตรการประกอบด้วย 1. เป็นแบตเตอรีจากผู้ผลิตที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะได้รับสิทธิอัตราภาษีสรรพสามิต 1% (สำหรับแบตเตอรีจากผู้ผลิตที่ไม่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) และแบตเตอรีนำเข้า จะมีอัตราภาษีสรรพสามิตร 8%) 2.เป็นแบตเตอรีที่ผลิตในระดับเซลล์ภายในประเทศ และที่มี Life Cycle ไม่น้อยกว่า 1,000 รอบ โดยนับจาก 70% ของ Nominal Capacity ที่ Depth of Discharge ไม่ต่ำกว่า 80% ณ อุณหภูมิทดสอบ 20-25 องศา และต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IEC หรือหน่วยงานที่รัฐให้การรับรอง 3.เป็นแบตเตอรีมีระบบจำกัดหรือกระบวนการนำกลับมาใหม่ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมประกาศกำหนด

 

โดยเงินสนับสนุนดังกล่าว จะขึ้นกับขนาดของโรงงานผลิตแบตเตอรีและความจุพลังงานจำเพาะของแบตเตอรี หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรีขนาดต่ำกว่า 8 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง (GWh)  จะมีการสนับสนุนดังนี้ 1. แบตเตอรีประเภทที่มีพลังงานจำเพาะ โดยน้ำหนักสูงกว่า 190 Wh/kg จะได้รับเงินสนับสนุน 600 บาทต่อKWh  2.แบตเตอรีประเภทที่มีพลังงานจำเพาะโดยน้ำหนัก145-190 Wh/kg จะได้รับเงินสนับสนุน 500บาทต่อKWh และ 3.แบตเตอรีประเภทที่มีพลังงานจำเพาะโดยน้ำหนักตั้งแต่ 125-145 Wh/kg จะได้รับเงินสนับสนุน 400 บาทต่อKWh

 

หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรีขนาดสูงกว่า 8 GWh รับการสนับสนุนดังนี้  1. แบตเตอรีประเภทที่มีพลังงานจำเพาะโดยน้ำหนักสูงกว่า 190 Wh/kg จะได้รับเงินสนับสนุน 800 บาทต่อKWh  2.แบตเตอรีประเภทที่มีพลังงานจำเพาะโดยน้ำหนัก145-190 Wh/kg จะได้รับเงินสนับสนุน 700 บาทต่อKWh  และ3.แบตเตอรีประเภทที่มีพลังงานจำเพาะโดยน้ำหนักตั้งแต่ 125-145 Wh/kg จะได้รับเงินสนับสนุน 600 บาทต่อKWh

 

ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้ยังพิจารณามาตรการขับเคลื่อนการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งเป็นรถยนต์กลุ่มใหญ่ของประเทศให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ การจัดตั้งคณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องการดัดแปลงรถยนต์ใช้แล้วเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion)

 

พร้อมกันนี้ยังรับทราบความคืบหน้าของการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ล่าสุด ระเบียบสามารถเปิดให้หน่วยงานราชการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้ในหน่วยงานได้แล้ว ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการสนับสนุนการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ที่ได้รับการส่งเสริมไปก่อนหน้านี้

 

@ EA รับ 1.2 พันล.

 

ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง สำหรับมาตรการในการสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรีสำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่ออกมาครั้งนี้มองว่าเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีการตั้งโรงงานในไทย ซึ่งหากมาพิจารณาแล้ว EA จะได้รับประโยชน์จากการที่ขณะนี้มีโรงงานแบตเตอรีแล้ว มีการขยายกำลังการผลิตเป็น 2 GW หากประเมินจากเงินสนับสนุนที่ได้ ก็จะได้รับกรอบเงินสนับสนุนจากภาครัฐราว 1.2 พันล้านบาท

 

แต่ทั้งนี้ก็ต้องมาพิจารณาเรื่องรายละเอียดของการให้เงินสนับสนุนต่อลูกค้าว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในฐานะผู้ผลิต นอกจากนี้ในกลุ่มของ EA นั้นในส่วนของ NEX และ BYD ก็จะได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ ด้วย

 

@NEX โดดเด่น

 

โดยในส่วนของ NEX เก็งงบไตรมาส 4/2565 Turnaround  ส่วนปี 2566 ประเมินการส่งมอบรถ EV ทุกประเภทที่ 2.5-3.5 พันคัน  ขณะที่ออเดอร์ใหม่ทยอยเข้าหนุน Backlog ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 121 ล้านบาท และ 1.2 พัน ล้านบาท พลิกจากขาดทุนในปี 2564 และเติบโต 890% จากปีก่อนตามลำดับ ส่วน EA ประเมินราคาเป้าหมาย 90 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง