โควิด: บราซิลตายเกิน5หมื่นศพ ชาติที่สองในโลก แห่ชุมนุมหนุน-ต้านผู้นำประเทศ
โควิด: บราซิลตายเกิน5หมื่นศพ - วันที่ 22 มิ.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่า บราซิล กลายเป็นประเทศที่สองในโลกต่อจากสหรัฐอเมริกา ที่มียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-10 ทะลุ 50,000 ราย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น และไม่กี่วันหลังบราซิลยืนยันยอดผู้ติดเชื้อในประเทศมากกว่า 1 ล้านคน
กระทรวงสาธารณสุขบราซิลประกาศเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 641 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 50,617 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่มากกว่า 17,000 คน โดยภาพรวม กราฟผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อของบราซิลยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตวันละราว 1,000 ราย เมื่อไม่นานนี้ แม้ว่าตัวเลขช่วงสุดสัปดาห์จะมีแนวโน้มลดลง บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การขาดการตรวจหาผู้ติดเชื้อระดับประเทศเป็นสาเหตุหลัก การตรวจหาผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับน้อยกว่าที่ต้องการ 20 เท่า เป็นการชี้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยภาพรวมอาจสูงกว่าปัจจุบันอย่างมาก
ทั้งที่ไวรัสอันตรายกำลังคุกคามประเทศ กลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคน ออกมาเดินขบวนบนถนนมุ่งหน้าไปด้านนอกสภาและอาคารศาลสูงสุด ที่กรุงบราซิเลีย เมืองหลวง เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ตำรวจนครบาลต้องแยกกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายออกจากกัน นอกจากนี้ มีการรวมกลุ่มลักษณะดังกล่าวที่นครเซาเปาลู และนครรีโอเดจาเนโร เป็นฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งตัดสินใจไม่ล็อกดาวน์ประเทศและให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจมากกว่า จนสองรัฐมนตรีสาธารณสุขที่เป็นนายแพทย์ถูกประธานาธิบดีไล่ออกและลาออกจากตำแหน่งหลังไม่ลงรอยกับผู้นำประเทศ
ฝ่ายต่อต้านเรียกร้องให้นายโบลโซนาโรถูกถอดถอน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนจากข้อครหาพยายามแทรกแซงหน่วยงานตำรวจด้วยแรงจูงใจทางการเมือง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ขณะที่ศาลสูงสุดดำเนินการไต่สวนอีก 2 คดี เกี่ยวกับอดีตที่ปรึกษา และเพื่อนครอบครัวประธานาธิบดีบราซิล ที่ถูกจับกุมและกล่าวหาพัวพันทุรจิต ส่วนฝ่ายสนับสนุนโจมตีสภาและศาลสูงสุดพยายามคุมอำนาจผู้นำประเทศ
วันเดียวกัน องค์การอนามัยโลกแถลงว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเท่าที่เคยมีมา 183,000 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มากกว่าร้อยละ 60 มาจากอเมริกาเหนือและใต้ สหรัฐอเมริกายังรุนแรงสุดด้วยยอดผู้ตายเกือบ 120,000 ราย จากยอดผู้ติดเชื้อ 2.2 ล้านคน นอกจากนี้ เม็กซิโก เปรู และชิลี รุนแรงไม่แพ้กัน ส่วนอาร์เจนตินามียอดผู้เสียชีวิตทะลุหลักพันแล้ว