สรุปงาน "At Last 2025" โครงการสแกนม่านตายืนยันตัวตนความเป็นมนุษย์ของแซม อัลต์แมน

งาน “At Last” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2025 ถือเป็นการประชุมสำคัญของโครงการเวิลด์คอยน์ (Worldcoin: WLD) โดยมี แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI และประธานบริษัท Tools for Humanity พร้อมด้วย อเล็กซ์ บลาเนีย (Alex Blania) ซีอีโอของ Tools for Humanity เป็นเจ้าภาพ งานนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งวงการคริปโตและเทคโนโลยี โดยมีผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกกว่า 18,000 คน
ไฮไลต์สำคัญจากงานมีการเปิดเผยความคืบหน้าสำคัญของผลิตภัณฑ์ Worldcoin, ระบบ World ID และแอป World App โดยมีบุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีร่วมงาน
หัวใจหลักของ Worldcoin คือ ระบบยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวมิติระดับโลก (Global Digital Identity) ผ่านการสแกนม่านตาด้วยอุปกรณ์ “Orb” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของโครงการ รวมไปถึงการเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ใน World App เช่น World Chat และการแนะนำอุปกรณ์ “orb mini” สำหรับการลงทะเบียนชีวมิติที่สะดวกยิ่งขึ้น
ภายในงานมีการอัปเดตความคืบหน้าโครงการได้นำร่องใช้ World ID เป็น “พาสปอร์ตดิจิทัล” ในหลายประเทศในเอเชียและลาตินอเมริกา พร้อมแผนขยายไปยังแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ
การเปิดตัวพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือใหม่กับบริษัท Razer และ Visa โดยความร่วมมือกับ Visa จะนำไปสู่การเปิดตัวบัตรเดบิต Worldcoin ซึ่งสามารถใช้ WLD ในการใช้จ่ายเหมือนสกุลเงินทั่วไป
นอกจากนี้ OpenAI ยังอยู่ระหว่างทดลองนำเทคโนโลยี Worldcoin ไปใช้ในระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล ทำให้ Worldcoin กลายเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของระบบ Web3 ในอนาคต
งานนี้จัดขึ้นท่ามกลางกระแสบวกในตลาดคริปโต โดยมีรายงานว่ากองทุนคริปโตรายใหญ่กำลังสะสม WLD และมีข่าวลือเกี่ยวกับโซเชียลแพลตฟอร์มใหม่จาก OpenAI ที่จะใช้ WLD เป็นสกุลเงินหลัก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาอาจแตะระดับ $1.30–$2.00 ภายในกลางปี 2025
ปัจจุบัน World App มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 25 ล้านครั้ง และมีผู้ถือครอง World ID เกือบ 6 ล้านคน แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก และมีการเริ่มแจกจ่ายโทเคน WLD ให้กับผู้ใช้งานที่ผ่านการยืนยันตัวตน โดยจะทยอยปล่อยโทเคน 80% ภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อรักษาเสถียรภาพและการเติบโตระยะยาว
เรียกได้ว่างานครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Worldcoin ซึ่งอาจผลักดันให้โครงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการยอมรับในวงกว้าง หรืออาจเผชิญแรงต้านในประเด็นด้านความเป็นส่วนตัว การรวมศูนย์ และการกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม การอัปเดตทางเทคโนโลยี การใช้งานจริง และพันธมิตรระดับโลก ล้วนตอกย้ำเป้าหมายของ Worldcoin ที่ต้องการเป็นมาตรฐานสากลด้านอัตลักษณ์ดิจิทัลและการเงินแบบครอบคลุมในยุค AI