FTE อุปกรณ์ดับเพลิงขายดี โครงการใหญ่หนุนดีมานด์

#FTE #ทันหุ้น – FTE ทิศทางไตรมาส 2/2567 ดีกว่าไตรมาสแรก ยอดขายดีขึ้นจากความต้องการระบบดับเพลิง ด้านงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานหนุนผลงานปีนี้โตแกร่ง มั่นใจรายได้โต 10% ตามเป้า ปัจจุบันตุน Backlog อีกประมาณ 500-550 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่อง

นายทักษิณ ตันติไพจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2567 ถือว่าเติบโตดีกว่าไตรมาสเเรก ที่ยังได้รับผลกระทบด้านยอดขาย เนื่องจากจากการเบิกจ่ายภาครัฐที่ล่าช้า แต่โดยรวมแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2567

ประกอบกับปัจจุบันยอดขายอุปกรณ์ดับเพลิงหรือระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ได้รับความนิยมเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจึงมีการให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิดเพลิงไหม้มากขึ้น และเป็นปัจจัยที่หนุนให้มีความต้องการอุปกรณ์ระบบดับเพลิงมากขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบัน FTE เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ดับเพลิงจากหลายบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยสินค้าของเรามีหลากหลายประเภทกว่า 9,000 รายการ จากกว่า 30 แบรนด์  ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ดับเพลิงจากบริษัทจะมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สามารถรองรับความต้องการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด เช่น ผลิตภัณฑ์โฟมดับเพลิง, เครื่องสูบน้ำดับเพลิง, ระบบ Inert Gas, ระบบ FM200, ระบบ NOVEC1230 เป็นต้น

*งานโครงการเพิ่ม

นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการบริการออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ ปรับปรุงระบบดับเพลิงทุกชนิดในโรงงานอุตสาหกรรม ขนาดใหญ่และขนาดกลาง มูลค่างานประมาณ 25-30 ล้านบาท เข้ามาหลายโครงการ เป็นผลจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์มุ่งสู่การขยายธุรกิจในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น

ขณะกลุ่มจำหน่ายสินค้าให้แก่ เอกชนและรัฐบาล ปัจจุบันก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีกลุ่มลูกค้าสำคัญ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้รับเหมางานก่อสร้างรายใหญ่และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นการขยายส่วนแบ่งการตลาดจากกลุ่มลูกค้านี้ และยังมีกลุ่มลูกค้าภาคราชการ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ และมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน

รวมถึงกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มลูกค้าที่คาดว่าจะมีการเติบโตสูงทั้งจากการขยายตัวตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมภาคตะวัน การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี นอกจากนี้บริษัทยังขยายตลาดส่วนภูมิภาคและประเทศต่างๆในแถบอาเซียนเพื่อยกระดับการให้บริการของบริษัท โดยแสวงหาโอกาสขยายธุรกิจสู่ประเทศในแถบอาเซียน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา ร่วมกับผู้ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ

*แบ็กล็อกแน่นพอร์ต

.และมีงานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) อีกประมาณ 500-550 ล้านบาท อาทิ โครงการติดตั้งระบบดับเพลิงให้กับกลุ่มธุรกิจพลังงานและอสังหาริมทรัพย์ , งานโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) และงานติดตั้งระบบดับเพลิงภายในโรงงานอุตสาหกรรม โดยปีนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาประมาณ 80% ภายในปีนี้

ส่วนงานด้านอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต้องรอการประกาศแผนที่ชัดเจนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง ซึ่งปี 2567 ก็มองว่ายังมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ราว 35% ส่วนที่เหลือมาจากงานขาย

อย่างไรก็ดีบริษัทคาดว่าภาพรวมการดำเนินงานปีนี้บริษัทคาดว่าจะเติบโต 10% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 1,144.92 ล้านบาท