รีเซต

RBFดีลลูกค้าใหม่ต่างแดน ต่อยอดผลิตภัณฑ์ดันยอด

RBFดีลลูกค้าใหม่ต่างแดน ต่อยอดผลิตภัณฑ์ดันยอด
ทันหุ้น
19 กันยายน 2565 ( 12:35 )
48
RBFดีลลูกค้าใหม่ต่างแดน ต่อยอดผลิตภัณฑ์ดันยอด

#RBF #ทันหุ้น – RBFเผยอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าใหม่ต่างประเทศ คาดชัดเจนปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ ขณะที่ภายในประเทศยังคงแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่อง ย้ำเป้ารายได้ทั้งปีโต 20% ด้านนักวิเคราะห์ปรับเป้ารายได้-กำไรสุทธิโตต่อเนื่อง 2 ปี ชี้หากปิดดีลลูกค้าต่างชาติได้จะเป็น Upside ใหม่แทนธุรกิจกัญชง แนะเก็งกำไรเป้า 14 บาท

 

นายสุรนาถ  กิตติรัตนเดช  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจหลักของบริษัททั้งกลุ่ม Food Ingredients, และกลุ่มสินค้า Food Coating ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก หนุนจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารหลายรายยังคงวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่, ต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยการออกผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่เข้ามากระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงมั่นใจว่ารายได้รวมทั้งปี 2565 จะเติบโตได้ประมาณ 20% จากที่ทำได้ 3,384 ล้านบาท เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา

 

สำหรับต้นทุนวัตถุดิบสำคัญ คือ แป้งสาลี ยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลง เนื่องจากไตรมาส 3/2565 เป็นฤดูเก็บเกี่ยวจึงมีผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก บริษัทจึงทยอยสต๊อกวัตถุดิบไว้ให้เพียงพอที่จะผลิตผลิตสารตั้งต้นต่างๆ ส่งมอบให้คู่ค้าตามคำสั่งผลิตที่ได้รับการยืนยันเข้ามา ประกอบกับการขยายฐานการผลิตออกไปทั้งในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย

 

ขณะเดียวกัน บริษัทร่วมทุน RBS-TU FOOD INGREDIENTS PRIVATE LIMITED ในประเทศอินเดีย ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการระบบการขนส่งสินค้า-วัตถุดิบได้อย่างมีศักยภาพ จึงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้น (Margin) ได้ในระดับที่น่าพอใจ

 

*พัฒนาสินค้า-ขยายตลาด

พร้อมกันนี้ทีมค้นคว้า วิจัย และพัฒนา (R&D) ของบริษัทยังนำธัญพืชในไทยมาพัฒนาเป็นสินค้าใหม่เป็นกลุ่มแป้งที่ไม่ใช้แป้งสาลีเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตเป็นส่วนผสมในอาหารหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นและสีผสมอาหาร, กลุ่มสินค้าประเภท Food Additives, และกลุ่มแป้งและซอส ฯลฯ เป็นต้น เพื่อมุ่งลดการพึ่งพาแป้งสาลีในระยะยาว รวมถึงการเพิ่มศักยภาพ – ขยายฐานการตลาดเข้าสู่กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ

 

ขณะเดียวกันบริษัทปรับกลยุทธ์การตลาด ด้วยการส่งพนักงานเดินทางออกไปพบลูกค้าเป้าหมายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงจีน, ญี่ปุ่น ฯลฯ รวมถึงเชิญเข้ามา Plant Visitเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าต่างประเทศ เบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 4/2565 หรือต้นไตรมาส 1/2566 อย่างน้อย 1 ดีล

 

“ภาพรวมทั้งปี 2565 บริษัทยังมีแผนร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ กับคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงครึ่งหลังของปีภาพในต่างประเทศจะเริ่มมีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น แต่โดยรวมก็ยังมีลูกค้าต่างประเทศเริ่มกลับมา Plant Visitซึ่งบริษัทก็ยังคงแผนการบริหารจัดการแบบยืดหยุ่น พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจผันผวนในอนาคต”

 

*ลูกค้าใหม่เพิ่มอัพไซด์

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ยังคงคาดการณ์ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ของ RBF จะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปีที่เติบโต 20% YoY หนุนจากลูกค้าในประเทศเริ่มกลับมาเปิดตัวสินค้าใหม่ และสินค้ารสชาติใหม่ มากขึ้นหลังสถานการณ์การแพร่จะบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ทั้งนี้หากมีความชัดเจนของลูกค้าในต่างประเทศจะกลายเป็น Upside อย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตในปี 2566

 

ขณะที่ฝั่งต้นทุนเริ่มคลี่คลายมากขึ้น หลังราคาข้าวสาลีตลาดโลกปรับลงใกล้เคียงช่วงก่อนโควิด-19 อีกครั้ง แต่บริษัทยังมีสต๊อกล่วงหน้าราว 1-2 เดือน จึงคาดเห็นต้นทุนวัตถุดิบเริ่มลดลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป คาดจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นกลุ่ม Food Coating ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นี้

 

นอกจากนี้บริษัทได้พัฒนาสินค้าใหม่เป็นกลุ่มแป้งที่ไม่ใช้แป้งสาลี แต่เป็นการใช้ธัญพืชในไทยมาเป็นวัตถุดิบทดแทน เพื่อลดความเสี่ยงกรณีราคาแป้งสาลีปรับขึ้นแรง และยังเป็นสินค้าทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้แป้งสาลี  เบื้องต้นผู้บริหารชี้แจงกรณีที่ภาครัฐปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คาดจะกระทบกำไรค่อนข้างจำกัดราว 1.5%-3%

 

*แนะเก็งกำไรเป้า 14 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์จึงพิจารณาปรับเพิ่มรายได้จากกลุ่มธุรกิจหลักขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้ถอดรายได้จากธุรกิจพืชกัญชงออก เนื่องจากคู่ค้ายังคงเลื่อนแผนการวางจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสมของ CBD ออกไป โดยคาดการณ์รายได้รวมทั้งปี 2565 ของ RBF ที่ 4,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.42% YoY และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 16.49% มาอยู่ที่ 4,711 ล้านบาทในปี 2566 พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2565 ที่ 624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.57% YoY และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 23.36% มาอยู่ที่ 776 ล้านบาทในปี 2566 พร้อมแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 14 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง