รวมความเห็น ทันตแพทย์ ประเด็น โคเคนรักษาฟัน #คดีบอสอยู่วิทยา
trueID News รวบรวมความเห็นจากทันตแพทย์ กรณีพนักงานสอบสวน คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ถึงสาเหตุที่ไม่แจ้งข้อหาพบสารแปลกปลอมที่เกิดจากยาเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหา ทั้งที่มีผลตรวจทางนิติเวชวิทยายืนยันจากการตรวจเลือดของนายวรยุทธ
จากกรณีกรรมาธิการของสภาฯ ให้ตำรวจชี้แจงประเด็นเมาแล้วขับ ความเร็ว และกรณีที่พบสารเสพติดในร่างกายคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส โดยจากเอกสารผลตรวจร่างกาย พบสารโคเคนเอธทีลีน ซึ่งพบได้หลังเสพโคเคน ร่วมกับแอลกอฮอล์ แต่ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ในสำนวนของตำรวจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า พบส่วนผสมสารเสพติดโคเคนในเลือดของนายวรยุทธตั้งแต่ต้น แต่ได้รับการยืนยันจากทันตแพทย์ว่าสารที่ตรวจพบเป็นยาที่ใช้รักษาฟันทำให้ไม่ตั้งข้อหายาเสพติด
ในขณะที่ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าทันตแพทย์ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารโคเคนในการรักษาฟันผู้ป่วย ว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้า และพัฒนาไปไกลมากแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีการนำสารโคเคนที่ถูกระบุว่าเป็นสารเสพติด เข้ามาใช้เกี่ยวกับทางทันตกรรมอย่างแน่นอน
ปัจจุบันยาชาที่ใช้ในช่องปากคือยาชา ชื่อว่า Lidocaine ซึ่งเป็นยาชาใช้เฉพาะที่และใช้ในปริมาณที่น้อยมาก ประมาณ 1.8 มล. อีกทั้งตัวยาจะออกฤทธิ์ไม่เกิน 6 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนจะหายไปและไม่สามารถตรวจพบในปัสสาวะได้ ยืนยันว่ายาชาที่ทางทันตกรรมใช้เป็นยาตัวละกลุ่มกับที่ปรากฎตามข่าว.
"โคเคนที่เป็นสารเสพติด กับ ลิโดเคนที่ใช้เป็นยาชา อยู่กันคนละตระกูล โครงสร้างทางเคมีไม่เหมือนกัน ดังนั้น ไม่ต้องห่วงว่าเวลาหมอฟันฉีดยาชาแล้ว จะตรวจพบโคเคนในกระแสเลือด"
ขอบคุณข้อมูลจาก innnews
ภาพประกอบจาก : AFP
=====
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ.อ๊อด ชี้แยกให้ออกโคเคนใช้เป็นยา กับโคเคนใช้เสพต่างกัน