รีเซต

รัฐปูทางสู่สังคมไร้เงินสด! วางรากฐานเทคโนโลยีเงินดิจิทัล เชื่อมชาวบ้านสู่โลกยุคใหม่

รัฐปูทางสู่สังคมไร้เงินสด! วางรากฐานเทคโนโลยีเงินดิจิทัล เชื่อมชาวบ้านสู่โลกยุคใหม่
TNN ช่อง16
26 เมษายน 2567 ( 10:13 )
76
รัฐปูทางสู่สังคมไร้เงินสด! วางรากฐานเทคโนโลยีเงินดิจิทัล เชื่อมชาวบ้านสู่โลกยุคใหม่

ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมาก รวมถึงรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินที่กำลังก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ การริเริ่มโครงการเงินดิจิทัล เพื่อวางรากฐานการใช้เทคโนโลยีทางการเงิน และเชื่อมประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะชาวบ้าน ให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคต


การวางรากฐานเทคโนโลยีเงินดิจิทัล


การวางรากฐานเทคโนโลยีเงินดิจิทัลเป็นขั้นตอนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับบัตรประชาชน หรือสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล 


นอกจากนี้ยังต้องสร้างความร่วมมือกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงิน เพื่อเชื่อมโยงระบบให้สามารถรองรับการใช้เงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งพัฒนาระบบความปลอดภัยและมาตรฐานการใช้งาน เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในการใช้เงินดิจิทัล และปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้สอดรับกับการใช้งานเงินดิจิทัล และป้องกันการใช้ในทางที่ผิด



"ทางรัฐ" ซูเปอร์แอปแห่งอนาคต


นาง ไอรดา เหลืองวิไล รองผอ.(รักษาการผอ. )สำนักงานพัฒนาดิจิทัล(องค์การมหาชน) หรือ DGA เผยว่า แอป "ทางรัฐ" เป็นซูเปอร์แอปที่รวบรวมบริการสำคัญของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ให้ประชาชนสามารถค้นหาข้อมูลของตัวเอง "รู้-ยื่น-จ่าย-รับ" ได้ในแอปเดียว เกิดจากความร่วมมือของ DGA และสำนักงาน ก.พ.ร. เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ปัจจุบันมีบริการจาก 74 หน่วยงานครอบคลุม 149 บริการ โดยบริการที่ประชาชนสนใจใช้งานมากที่สุด ได้แก่ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ใบขับขี่ ใบสั่ง ประกันสังคม เงินสมทบชราภาพ และเบี้ยผู้สูงอายุ



นอกจากนี้ นาง ไอรดา ยังกล่าวว่า แอป "ทางรัฐ" ได้รับนโยบายจากรัฐบาลให้ต่อยอดเป็นแอปที่รองรับการลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท และซอฟพาวเวอร์ได้ด้วย เนื่องจากแอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นซูเปอร์แอปสำหรับประชาชนอยู่แล้ว จึงสามารถตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลได้ 


โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอป "ทางรัฐ" ได้ทั้งระบบไอโฟนและแอนดรอยด์ พร้อมทั้งยืนยันตัวตนผ่านแอป หรือใช้บริการยืนยันตัวตนที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 ตู้บุญเติม หรือไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกยืนยันผ่านแอปหรือกลุ่มผู้สูงอายุ


การเชื่อมชาวบ้านสู่เงินดิจิทัล


การเชื่อมชาวบ้านสู่เงินดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของโครงการนี้ โดยเริ่มจากการสร้างความตระหนักรู้และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเงินดิจิทัลสู่ประชาชนในวงกว้าง ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อธิบายให้เห็นถึงประโยชน์ วิธีการใช้งาน รวมถึงข้อควรระวัง 


นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมและสาธิตการใช้งานแอปพลิเคชันและกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ยังเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ให้สามารถใช้งานได้จริง ทั้งนี้ระบบและส่วนติดต่อผู้ใช้จะถูกออกแบบให้เรียบง่าย เข้าใจง่าย และใช้งานได้สะดวก รองรับทั้งผู้ใช้ที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างแรงจูงใจในการใช้งานเงินดิจิทัลผ่านการให้ส่วนลดหรือเงินคืนในช่วงแรก เพื่อให้ประชาชนมีประสบการณ์ที่ดีและเกิดความคุ้นเคย และการขยายการรับชำระเงินดิจิทัลในร้านค้าและบริการต่างๆ ทั้งในเมืองและชนบท ให้ประชาชนสามารถใช้เงินดิจิทัลได้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีเงินดิจิทัลมาใช้กับชาวบ้านนั้น ยังมีความท้าทายอยู่บ้าง เนื่องจากประชาชนบางส่วนยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัล และยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน 



นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลอาจยังไม่เพียงพอ ทำให้การใช้งานเงินดิจิทัลอาจไม่สะดวกเท่าที่ควร รวมถึงยังมีความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงิน


ดังนั้น ในการดำเนินโครงการเงินดิจิทัล จึงต้องมีการวางแผนที่ดี มีการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลให้ครอบคลุมและเพียงพอ รวมถึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มงวด 


นอกจากนี้ ยังต้องมีการพัฒนากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการใช้งานเงินดิจิทัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้งาน

โครงการเงินดิจิทัล นับเป็นโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความสะดวก และส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชน แม้จะมีความท้าทายบ้าง แต่หากมีการวางแผนที่ดี ให้ความรู้แก่ประชาชน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดแล้ว โครงการนี้จะสามารถประสบความสำเร็จ และนำพาประเทศไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสดได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว





ข่าวที่เกี่ยวข้อง