เปิดรายละเอียด แผนสันติภาพ 20 ข้อ (20-point Gaza Peace Plan) ของสหรัฐฯ ยุติสงครามอิสราเอล-ฮามาส

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ตอบรับข้อเสนอเรื่องแผนสันติภาพฉนวนกาซา 20 ข้อของสหรัฐฯ แล้ว เพื่อที่จะยุติสงครามในกาซาที่ยืดเยื้อมานานเกือบสองปี ในการแถลงข่าวร่วมกันกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว ทำให้การยุติสงครามในกาซาใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที แต่จุดยืนของกลุ่มฮามาส ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยอมรับด้วยหรือไม่
นี่คือรายละเอียดของแผนสันติภาพทั้ง 20 ข้อ
1. กาซาจะต้องเป็นเขตปลอดการก่อการร้าย ที่ไม่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศเพื่อนบ้าน
2. กาซาจะถูกพัฒนาใหม่เพื่อประโยชน์ของประชาชนกาซา ที่ต้องทนทุกข์มาอย่างยาวนาน
3. หากทั้งสองฝ่ายยอมรับข้อเสนอนี้ สงครามจะยุติทันที กองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังไปยังแนวที่ตกลงไว้เพื่อเตรียมการส่งตัวประกัน การโจมตีทางทหารทั้งภาคพื้นดิน อากาศ และปืนใหญ่จะหยุดลง และเส้นแนวรบจะตรึงนิ่งไว้จนกว่าจะมีการถอนกำลังอย่างสมบูรณ์ตามแผน
4. ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังจากอิสราเอลประกาศยอมรับข้อเสนอนี้ ตัวประกันทุกคนทั้งที่ยังมีชีวิตและผู้เสียชีวิตจะถูกส่งคืนทั้งหมด
5. เมื่อมีการส่งตัวประกันครบถ้วนแล้ว อิสราเอลจะปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ 250 คนที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และปล่อยผู้ต้องขังกาซาอีก 1,700 คนที่ถูกจับกุมหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2023 รวมถึงผู้หญิงและเด็กทั้งหมด นอกจากนี้ สำหรับตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกส่งคืนในสภาพเสียชีวิต อิสราเอลจะปล่อยคืนศพชาวกาซาในอัตราส่วน 15 ต่อ 1
6. สมาชิกฮามาสที่ตกลงจะอยู่ร่วมอย่างสันติกับเพื่อนบ้านและยอมปลดอาวุธ จะได้รับการนิรโทษกรรม ส่วนสมาชิกกลุ่มฮามาสที่ต้องการออกจากกาซาจะได้รับเส้นทางที่ปลอดภัยไปยังประเทศที่ยินดีรับรอง
7. เมื่อข้อเสนอนี้มีผลบังคับใช้ จะมีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ เข้าไปในกาซาทันที ความช่วยเหลือขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ในข้อตกลงเมื่อ 19 มกราคม 2025 ครอบคลุมการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน เช่น น้ำ ไฟฟ้า ระบบบำบัดน้ำเสีย โรงพยาบาล โรงอบขนมปัง และการจัดหาอุปกรณ์เพื่อเก็บกวาดซากปรักหักพัง รวมถึงเปิดถนนให้สัญจรไปมาได้
8. การจัดสรรและกระจายความช่วยเหลือในกาซาจะดำเนินการผ่านสหประชาชาติ สภากาชาด และองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับคู่ขัดแย้ง ทั้งสองฝ่ายจะไม่เข้าไปแทรกแซง การเปิด-ปิดด่านราฟาห์ทั้งสองทิศทางจะใช้กลไกเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อตกลง 19 มกราคม 2025
9. กาซาจะถูกปกครองโดย “คณะกรรมการเทคโนแครตชั่วคราว” (ระบบที่ปกครองโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการในสาขาวิชาต่างๆ) ของปาเลสไตน์ที่ไม่ฝักใฝ่การเมือง ดูแลการบริการสาธารณะและเทศบาลให้แก่ชาวกาซา โดยมีองค์กรใหม่คือ “คณะกรรมการเพื่อสันติภาพ” ทำหน้าที่กำกับดูแล มีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้นำระดับโลก เช่น โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร และบุคคลอื่นที่ยังไม่ได้ประกาศ คณะกรรมการนี้จะกำหนดกรอบและจัดการเงินทุนสำหรับการพัฒนากาซาใหม่ จนกว่ารัฐบาลปาเลสไตน์จะเสร็จสิ้นโครงการปฏิรูปตามที่ระบุไว้ในข้อเสนอต่าง ๆ รวมถึงแผนสันติภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ในปี 2020 และข้อเสนอของซาอุดีอาระเบีย-ฝรั่งเศส และจะสามารถยึดครองกาซากลับคืนมาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการนี้จะเรียกร้องมาตรฐานสากลที่ดีที่สุดเพื่อสร้างการปกครองที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวกาซาและเอื้อต่อการดึงดูดการลงทุน
10. แผนพัฒนาเศรษฐกิจของทรัมป์ จะมีการสร้าง แผนเศรษฐกิจใหม่ เพื่อพัฒนากาซา โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทในการสร้างเมืองสมัยใหม่ในตะวันออกกลาง กลุ่มนานาชาติที่มีเจตนาดี ได้ร่วมกันเสนอแผนการลงทุนที่รอบคอบและแนวคิดการพัฒนา และจะได้รับการพิจารณาเพื่อบูรณาการกรอบความมั่นคงและธรรมาภิบาล เพื่อดึงดูดและอำนวยความสะดวกในการลงทุนเหล่านี้ ซึ่งจะสร้างงาน โอกาส และความหวังให้กับกาซาในอนาคต
11. จัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” พร้อมสิทธิประโยชน์ทางการค้าและภาษีพิเศษ ที่จะเจรจากับประเทศที่เข้าร่วม
12. จะไม่มีใครถูกบังคับให้ออกจากกาซา ผู้ที่ต้องการออกไปหรือกลับเข้ามาสามารถทำได้โดยเสรี และประชาชนจะได้รับการสนับสนุนให้อยู่ในกาซา เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้เป็นกาซาที่ดีขึ้น
13. ฮามาสและกองกำลังติดอาวุธอื่น ๆ จะไม่มีบทบาทในรัฐบาลกาซา ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือในรูปแบบใด ๆ โครงสร้างทางทหาร การก่อการร้าย และการรุก รวมถึงอุโมงค์และโรงงานผลิตอาวุธ จะถูกทำลายและห้ามสร้างใหม่ จะมีกระบวนการปลดอาวุธฉนวนกาซาภายใต้การกำกับดูแลของผู้ตรวจสอบอิสระ ซึ่งรวมถึงการนำอาวุธออกจากการใช้งานอย่างถาวรผ่านกระบวนการปลดประจำการที่ตกลงกันไว้ และได้รับการสนับสนุนจากโครงการซื้อคืนและบูรณาการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากนานาชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการยืนยันจากผู้ตรวจสอบอิสระ ฉนวนกาซาใหม่จะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการสร้างเศรษฐกิจที่มั่งคั่งและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้าน
14. ประเทศเพื่อนบ้านจะต้องรับประกันว่าฮามาสและกองกำลังอื่นปฏิบัติตามข้อตกลง และทำให้กาซาใหม่ไม่เป็นภัยต่อเพื่อนบ้านและประชาชน
15. สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับชาติอาหรับและนานาชาติจัดตั้ง “กองกำลังรักษาเสถียรภาพนานาชาติ” (ISF) เพื่อลงพื้นที่กาซาทันที กองกำลังนี้จะทำงานร่วมกับอียิปต์และจอร์แดนเพื่อฝึกตำรวจปาเลสไตน์และรักษาความปลอดภัยภายใน กองกำลังนี้จะเป็นทางออกด้านความมั่นคงภายในระยะยาว ISF จะทำงานร่วมกับอิสราเอลและอียิปต์เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดน ร่วมกับกองกำลังตำรวจปาเลสไตน์ที่ได้รับการฝึกอบรมใหม่ สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันไม่ให้อาวุธเข้าสู่ฉนวนกาซา และอำนวยความสะดวกในการขนส่งสิ่งของอย่างรวดเร็วและปลอดภัยเพื่อการฟื้นฟูกาซา ทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงกันเกี่ยวกับกลไกการยุติความขัดแย้ง
16. อิสราเอลจะไม่ยึดครองหรือผนวกกาซา เมื่อ ISF ควบคุมพื้นที่ได้ กองทัพอิสราเอล (IDF) จะทยอยถอนกำลังตามมาตรฐานและกรอบเวลาที่ตกลงไว้ เหลือเพียงแนวป้องกันรอบนอกเพื่อรับประกันความปลอดภัยจนกว่ากาซ่าจะมั่นคง ซึ่ง IDF, ISF ผู้ค้ำประกัน และสหรัฐอเมริกา จะตกลงกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กาซามีความมั่นคงและปลอดภัย ไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล อียิปต์ หรือพลเมืองอีกต่อไป ในทางปฏิบัติ IDF จะค่อยๆ ส่งมอบดินแดนกาซาที่ยึดครองให้แก่ ISF ตามข้อตกลงที่ IDF จะทำกับหน่วยงานเปลี่ยนผ่าน จนกว่าจะถอนกำลังออกจากกาซาโดยสมบูรณ์ ยกเว้นพื้นที่รักษาความมั่นคงที่จะคงอยู่จนกว่ากาซาจะได้รับความปลอดภัยจากภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่กลับมาอีกครั้ง
17. ในกรณีที่ฮามาสชะลอหรือปฏิเสธข้อเสนอนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น รวมถึงปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือที่ขยายขอบเขต จะดำเนินต่อไปในพื้นที่ปลอดการก่อการร้ายที่ส่งมอบจาก IDF ให้กับ ISF
18. จะมีการจัดตั้งกระบวนการสนทนาข้ามศาสนาขึ้นโดยยึดหลักคุณค่าของความอดทนและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อพยายามเปลี่ยนแปลงความคิดและความคิดเห็นของชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล โดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่ได้รับจากสันติภาพ
19. ในขณะที่การพัฒนากาซากำลังก้าวหน้า และเมื่อโปรแกรมปฏิรูป PA ได้รับการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เงื่อนไขก็อาจพร้อมสำหรับเส้นทางที่น่าเชื่อถือ สู่การกำหนดชะตากรรมด้วยตนเองและการเป็นรัฐของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งตระหนักว่าเป็นความปรารถนาของชาวปาเลสไตน์
20. สหรัฐฯ จะสร้างการเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ตกลงในขอบเขตทางการเมือง เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเจริญรุ่งเรือง
แม้จะยังไม่ทราบว่าฮามาสจะยอมรับแผนสันติภาพฉบับนี้หรือไม่ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าทางฮามาสไม่มีทางเลือกอะไรมากนัก นอกจากต้องตอบตกลง หลังจากที่ทางอิสราเอลออกมายอมรับแล้ว ถ้าหากว่าทางฮามาสยังคงไม่ยอมรับ ก็จะถูกโทษว่าเป็นฝ่ายที่ดื้อดึงที่ทำให้สงครามต้องดำเนินต่อไป และเป็นเหตุผลให้ทางอิสราเอลใช้อ้างในการโจมตีฉนวนกาซาได้ต่อ ส่วนทางทรัมป์ก็พยายามกดดันฮามาสให้ยอมรับแผนสันติภาพนี้ ไม่เช่นนั้น สหรัฐฯ จะสนับสนุนอิสราเอลให้ทำในสิ่งที่ต้องทำ เพื่อยุติสงครามในกาซา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
