เปิด 10 ทำเลราคาที่ดินสูงสุด”สยาม-ชิดลม-เพลินจิต”แพงสุดวาละ 3.3 ล้าน
ข่าววันนี้ 30 มกราคม นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2564 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีการเปิดตัวโครงการประมาณ 60,000 หน่วย รวมมูลค่าประมาณ 270,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่เปิดตัว 73,000 หน่วย ยังถือว่าเปิดตัวลดลงไปถึง 18% ในปี 2565 สถานการณ์น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น โดยที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังจำกัด โอกาสที่จะพัฒนาอสังหาฯเป็นจำนวนมาก คงยังไม่เกิดขึ้น
ราคาที่ดินแพง สวนทางตลาดหดตัว
ส่วนราคาที่ดินยังขยับตัวมากสวนทางกับการหดตัวของตลาดที่อยู่อาศัยโดยราคาที่ดินในปี 2564 คาดว่าขยับตัวสูงขึ้นกว่าปี 2563 ราว 4.7% แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าช่วงปี 2562-2563 ที่เพิ่มขึ้น 6.5% ทั้งนี้ในปี 2563 ผู้ประกอบการยอมลดราคาที่อยู่อาศัยในมือลงไปประมาณ 7% เพื่อเป็นการระบายสินค้าคงค้างให้ขายออกไปให้ได้ ส่วนปี 2564 ราคาที่ดินยังจะเพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่า ทั้งนี้เพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวในช่วงนี้ ในสถานการณ์ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยก็ยังไม่ได้ดีขึ้น ราคาที่ดินจึงยังเพิ่มขึ้นน้อยไปด้วย
โดยเชื่อว่าในปี 2565 ราคาที่ดินคงจะขยับตัวสูงขึ้นอีก เพราะการเปิดใช้งานจริงของรถไฟฟ้า ย่อมส่งผลให้มีการขยับตัวของราคาที่ดินที่ชัดเจนกว่าเดิม ยิ่งกว่านั้นสถาบันต่างๆ ล้วนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัว ดังนั้นราคาที่ดินในปี 2565 น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2564 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 5%ทั้งนี้เป็นอานิสงส์จากรถไฟฟ้าเป็นหลัก แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนักก็ตาม
รถไฟฟ้าสารพัดสีขยับขึ้นยกแผง
นายโสภณกล่าวอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ เมื่อเทียบปี 2563 กับ 2564 แยกเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส เพิ่มขึ้น 7.3% ส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง เพิ่มขึ้น 6.3% ส่วนต่อขยายช่วงตากสิน-บางหว้า เพิ่มขึ้น 7.2% ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพิ่มขึ้น 6.0% รถไฟฟ้าใต้ดินMRT เพิ่มขึ้น 6.3% แอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพิ่มขึ้น 4.4% รถไฟฟ้าสายสีม่วงบางซื่อ-บางใหญ่ เพิ่มขึ้น 4.9%
รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพิ่มขึ้น 6.7% รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินMRTช่วงบางซื่อ-ท่าพระ เพิ่มขึ้น 6.3% ช่วงหัวลำโพง-บางแค เพิ่มขึ้น 7.3% รถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-คูคต เพิ่มขึ้น 10.4% รถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 11.7% รถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง เพิ่มขึ้น 13.7% รถไฟฟ้าสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เพิ่มขึ้น 8.5%
สยาม-ชิดลม-เพลินจิตแพงสุดวาละ 3.3 ล้าน
นายโสภณกล่าวอีกว่า ส่วน 10 ทำเลที่ดินที่มีราคาสูงสุด คือ 1.สยาม-ชิดลม-เพลินจิต 3,300,000 บาทต่อตารางวา 2.วิทยุ 2,750,000 บาทต่อตารางวา 3.สุขุมวิท-ไทม์สแควร์ 2,730,000 บาทต่อตารางวา 4.สุขุมวิท 21 อโศก 2,500,000 บาทต่อตารางวา 5. สีลม 2,500,000 บาทต่อตารางวา 6. สาทร 2,200,000 บาทต่อตารางวา 7.เยาวราช 1,750,000 บาทต่อตารางวา 8. สุขุมวิท-เอกมัย 1,700,000 บาทต่อตารางวา 9. พญาไท 1,550,000 บาทต่อตารางวา และ10. พระรามสี่ (บ่อนไก่) 1,550,000 บาทต่อตารางวา
“ราคาที่ดินสูงสุดอยู่บริเวณสยามสแควร์ ชิดลม เพลินจิต ราคา 3,300,000 บาทต่อตารางวา ถ้าปูด้วยธนบัตรใบละ 1,000 บาท ต้องปูถึงราว 9 ชั้น รองลงมาถนนวิทยุ เป็นแหล่งสำนักงาน โรงแรมคุณภาพ จะเห็นได้ว่าสีลมที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน กลับมีราคาต่ำกว่าย่านสุขุมวิท-ไทมสแควร์ ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจบันเทิงและที่อยู่อาศัยราคาแพง ด้านเยาวราชซึ่งเคยเป็นศูนย์ธุรกิจในอดีต ก็มีราคาไม่ค่อยสูงมากนักเพราะที่ผ่านมายังไม่มีรถไฟฟ้า”นายโสภณกล่าว
ราคาประเมินยังวิ่งไล่ตาม
นายโสภณ กล่าวอีกว่า ขณะที่ราคาประเมินที่แพงที่สุดของกรมธนารักษ์ อยู่ในย่านสีลม เพลินจิตตารางวาละ 1 ล้านบาท แต่ราคานี้ไม่ได้ปรับมานานแล้ว ตามราคาตลาดของที่ดินในกรุงเทพมหานครในบริเวณสยามสแควร์ น่าจะสูงกว่าสีลม และมีราคาตารางวาละ 1 ล้านบาทตามราคาตลาดมาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว ขณะที่ราคาที่ดินที่แพงที่สุดเพิ่มขึ้นถึงตารางวาละ 3.3 ล้านบาทแล้ว แต่กรมธนารักษ์ยังประเมินไว้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น