ส่องหุ้นรับอานิสงส์ สินค้าใหม่ Apple
#SPVI #ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS มอง Apple เปิดตัวสินค้าใหม่ที่น่าสนใจ คือ iPhone รุ่นประหยัด SE ที่รองรับ 5G ได้ และ iPad Air ที่จะใช้ Chipset รุ่นใหม่ M1 ซึ่งช่วยให้เครื่อง แรงขึ้น ภาพรวมแม้เป็นการอัพเกรดสเปคสินค้า แต่ประเมินบวกต่อผู้จำหน่ายสินค้าไอที อาทิ SPVI, COM7 และ JMART โดยเฉพาะการกลับมาซื้อซ้ำของกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานรุ่นดังกล่าว ทั้งนี้ SPVI ช่วงสั้นยังได้รับผลกระทบฐานสูงและสินค้าขาดแคลน สะสมเมื่ออ่อนตัว จึงชอบ COM7 ,JMART มากกว่า เพราะกระทบน้อย เพราะสินค้าหลากหลายกว่า และระยะยาวทั้งคู่จะต่อยอดด้วยหลาย S Curve ใหม่ ขณะที่หุ้นทั้ง 2 บริษัท ผ่านการปรับฐานลึกพร้อมตลาด แนะนำ ซื้อ
วานนี้ Apple จัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่รอบแรกของปี 2565 เปิดตัวสินค้าใหม่หลากหลาย อาทิ MAC Studio, Studio Display ซึ่งคาดจะจับกลุ่มตลาดที่ค่อนข้างเฉพาะ แต่สินค้าที่อยู่จับกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีการเปิดตัวใหม่ คือ iPhone รุ่นประหยัด SE ที่รองรับ 5G ได้ และ iPad Air ที่จะใช้ Chipset รุ่นใหม่ M1 ซึ่งช่วยให้เครื่องเร็ว+แรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวมที่เป็นการอัพเกรดสเปคสินค้า ประเมินเป็นบวกต่อผู้จำหน่ายสินค้า Apple คือ SPVI, COM7 และ JMART โดยเฉพาะประเมินการกลับมาซื้อซ้ำของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอัพเกรดสเปคเครื่องที่ใช้งานอยู่เดิม และอาจจะดึงกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ได้จากสเปคสินค้าที่ดีขึ้น
ขณะที่หากพิจารณาแนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นงวด 1Q65 แต่ละบริษัท พบว่า ผู้ประกอบการที่มีสินค้าไม่หลากหลาย กรณี SPVI(FV@B8.3) ยังมีแนวโน้มได้รับผลกระทบฐานสูงจากการจำหน่าย iPhone 12 และ iPad ในช่วงเรียน+ทำงานที่บ้านในช่วงปีก่อนอยู่ จึงอาจจะต้องรอผลประกอบการฟื้นตัวนับจาก 2Q65 ภาพรวมแม้คงคาดกำไรปี 2565 เติบโตได้ 15% รวมถึงคำแนะนำ ซื้อ แต่รอเข้าลงทุนเมื่อหุ้นอ่อนตัวเป็นหลัก
ส่วน COM7(FV@B99) และ JMART(FV@B63.6) ยังค่อนข้างประคองตัวให้เติบโตได้ โดย COM7 มีจุดเด่นที่มีสินค้าหลากหลายทั้งมือถือและไอทีหลายยี่ห้อ ส่วน JMART แม้สินค้าหลากหลายน้อยกว่า COM7 แต่มีการต่อยอดนำสินค้าพันธมิตร อาทิ VGI เข้ามาจำหน่ายเพิ่มผ่านช่องทางที่มี รวมถึงการใช้ช่องทางของบริษัทลูกและบริการสินเชื่อสร้าง Synergy จากการขายสินค้า ขณะที่ระยะกลาง-ยาว ทั้งคู่ยังมี S-curve ใหม่ที่จะต่อยอดชัดเจน COM7 คือ การุกสู่ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และการให้สินเชื่อ ส่วน JMART กำลังอยู่ในช่วงที่เพิ่มความหลากหลายสินค้าเข้ามาในร้าน อาทิ โน๊คบุ๊ค สินค้า IoT เกมส์ รวมถึงกำลังต่อยอดทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านบริษัทร่วมทุนกับดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัดที่
JMART สามารถช่วยเติมเต็มระบบเทคโนโลยีในการขาย รวมถึงบริการทางการเงินภายในกลุ่มที่เข้าไปช่วยต่อยอดให้การขายสินค้าง่ายขึ้น ภาพรวมทั้ง COM7 และ JMART เชื่อว่าคาดหวังการเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินกำไร COM7 ปี 2565 เติบโตได้ 20.7% ส่วน JMART คาดเติบโตได้ 47.7% (Norm EPS คาดเติบโต 41.6%) ขณะที่หุ้นผ่านการปรับฐานเชื่อว่าราคาปัจจุบันอยู่ในโซนกลับมาลงทุนอีกครั้ง