เปิด 3 วิธี ล้างผัก-ผลไม้ชำระสารปนเปื้อนช่วงหน้าฝน

วันนี้ ( 27 พ.ค. 65 )นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนอาจทำให้พื้นที่ในตลาดเปื้อนไปด้วยคราบดิน โคลน และมีน้ำขัง นอกจากผู้ประกอบการตลาดควรดูแลและทำความสะอาดตลาดสดบ่อย ๆ เพื่อชะล้างคราบสกปรก และช่วยสกัดเชื้อโรคแล้ว ผู้บริโภคควรใส่ใจความสะอาดของผักผลไม้ที่อาจมีคราบสกปรกจากดินโคลนปนเปื้อน จึงขอย้ำให้ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนกินหรือปรุงประกอบอาหาร ซึ่งทำได้ 3 วิธีคือ 

วิธีที่ 1 ให้ล้างด้วยน้ำไหล โดยแช่ในน้ำนาน   15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหลผ่านและคลี่ใบผักถูไปมานาน 2 นาที เหมาะสำหรับการล้างผักจำนวนน้อย 

วิธีที่ 2 แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วนน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด 

วิธีที่ 3 ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) ครึ่งช้อนโต๊ะผสมน้ำ 10 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด 

ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อโรค และสารพิษตกค้างในผักผลไม้ได้

“ทั้งนี้ การกินผักและผลไม้เป็นประจำจะช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยกินให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม เน้นกินผักใบหลากสี ทั้งขาว เขียว แดง  ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้งและข้าวกล้อง เนื่องจากมีกากใยสูง น้ำตาลน้อย ให้พลังงานต่ำ ช่วยให้อิ่มได้นาน แล้วเสริมด้วยผลไม้หวานน้อย ซึ่งสามารถแบ่งเป็น ผักปรุงสุก 4-6 ทัพพี และผลไม้ 2-3 ส่วน แต่ถ้าหากต้องระวัง   เรื่องน้ำตาล ให้ลดสัดส่วนผลไม้ลง และเพิ่มส่วนของผักเข้าไปแทนที่ เพราะใยอาหารหรือเส้นใยจากผัก จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี และช่วยลดการดูดซึมไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือด วิตามิน และแร่ธาตุช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานมีประสิทธิภาพ ให้สารพฤกษเคมีที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ข้อมูลจาก  : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจาก : AFP