เกือบไม่รอด วัวขาจมทรายติดแหง็ก-น้ำท่วมซ้ำ เจอสาวใจดีช่วยพยุงหน้าไม่ให้จม

วัวตัวหนึ่งที่ติดอยู่ในทราย และไม่สามารถเคลื่อนตัวไปไหนได้ ได้รับความช่วยเหลือ หลังยืนรออย่างสิ้นหวังจากเหตุการณ์สภาพอากาศที่แปรปรวน ในนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

หญิงสาวในพื้นที่รายหนึ่ง ได้ใช้เรือคายัคพายไปหาวัวตัวหนึ่งที่ติดอยู่ในทรายจนไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ ในขณะที่ระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าวกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เธอได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ ที่ตัวเธอนั้นได้เข้าไปช่วยเหลือวัวตัวดังกล่าว โดยเธอนั้นช่วยพยุงหัวของวัวที่โชคร้ายตัวนี้ขึ้นเหนือน้ำ เพื่อให้มันยังสามารถหายใจต่อไปได้ ในขณะที่วัวตัวนี้ก็ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

ทั้งนี้พื้นที่บางส่วนในอร์ตแมคควอรีและเมืองใกล้เคียงได้เผชิญกับอุทกภัยอย่างหนัก ซึ่งเมืองทารีพื้นที่ทางตอนใต้นั้นกำลังเผชิญกับน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน ภาพที่น่าสะเทือนใจนี้ถูกโพสต์ขึ้น หลังจากที่หญิงสาวได้พบว่ามีวัวตัวหนึ่งถูกซัดและติดอยู่ในทรายที่หาด โอลด์บาร์ ใกล้กับเมืองทารีบริเวณชายฝั่งทางตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นกลุ่มอาสาสมัครจาก Old Bar Taree Surf Life Saving Club ก็ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ และนำวัวตัวนี้ออกจากทรายได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะนำวัวตัวตัวนี้ไปรวมไว้ในคอกที่อยู่ใกล้เคือง ซึ่งชาวบ้านในท้องถิ่นได้กล่าวว่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในครั้งนี้ทำให้วัว 22 ตัวหายไป จึงคาดว่าวัวตัวนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น

อย่างไรก็ตามผู้ที่อยู่อาศัยหลายพันคนในเมืองทารีและเขตชานเมืองโดยรอบ นั้นได้รับคำสั่งให้เตรียมอพยพออกจากบ้านเนื่องจากอาจมีปริมาณน้ำฝนที่สูงถึง 50-80 มม. พร้อมทั้งยังออกคำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศที่รุนแรง และบริเวณที่น้ำท่วมนั้นยังครอบคลุมไปถึงที่อยู่ของประชากรส่วนใหญ่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และกรมอุตุนิยมวิทยายังออกคำเตือนถึงปริมาณที่อาจจะล้นออกจากแม่น้ำถึง 12 สาย

ทั้งนี้ฝนที่ตกกระหน่ำและสภาพอากาศแปรปรวน เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำชายฝั่งรวมกับระบบความกดอากาศสูงกำลังแรงในภาคใต้ ทำให้มีการจัดตั้งศูนย์อพยพที่ริชมอนด์และเบลลิงเกน และยังมีการเปิดเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งในแถลงการณ์ฉุกเฉินนั้นได้ระบุว่า เหตุการณ์สภาพอากาศยังคงรุนแรง โดยจะมีฝนตกทุกวันยาวไปจนถึงวันศุกร์นี้ "ครั้งสุดท้ายที่เราประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เราสามารถผ่านสภาพอากาศเช่นนั้นไปได้ในสองหรือสามวัน แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่มีสภาพอากาศเลวร้ายมากกว่าที่ผ่านมา" แกลดีส์ เบเรจิเคลียน นายกรัฐมนตรีของนิวเซาธ์เวลส์กล่าว

ที่มา : dailymail