รีเซต

นักธุรกิจเปลี่ยนวิกฤตปิดร้าน หันปลูกไม้ด่าง หวังเป็นงานอดิเรก ตอนนี้ทำเงินหลักแสนต่อเดือน

นักธุรกิจเปลี่ยนวิกฤตปิดร้าน หันปลูกไม้ด่าง หวังเป็นงานอดิเรก ตอนนี้ทำเงินหลักแสนต่อเดือน
มติชน
16 มิถุนายน 2564 ( 23:26 )
150
นักธุรกิจเปลี่ยนวิกฤตปิดร้าน หันปลูกไม้ด่าง หวังเป็นงานอดิเรก ตอนนี้ทำเงินหลักแสนต่อเดือน

หนุ่มนักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร ที่ต้องปิดตัวลงในช่วงวิกฤตโควิด และใช้วิกฤต work from home ทำงานอยู่กับบ้านปลูกไม้ด่างตามความชอบ จนทำให้มีผู้สนใจเข้ามาขอชมและขอซื้อเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นรายได้ ที่มาช่วยชดเชยและประคองธุรกิจหลักที่ต้องปิดตัวลงในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมาได้

 

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับคุณศุภกิจ คันธวณิช อายุ 46 ปี เป็นผู้ที่มีความชื่นชอบเลี้ยงไม้ด่างหรือที่คนเรียกติดปากว่า Monstera ได้พาผู้สื่อข่าวเที่ยวชม สวนไม้ด่างในพื้นที่เล็กๆบริเวณข้างร้านที่ตนเองทำธุรกิจอยู่ โดยภายในสวนไม้ด่างนั้น มีไม้ด่างจำนวนหลากหลายสายพันธุ์ กว่า 200 ต้น มีราคาตั้งแต่หลักพันบาทถึงหลักแสนบาท

 

 

ศุภกิจ คันธวณิช ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าไม้ด่างที่นิยมในไทยนั้นเป็นไม้ด่างตระกูล มอนสเตอร่า ฟิโลเดนดรอน อโลคาเซีย ฯลฯ โดยที่ลักษณะไม้ต่างแต่ละชนิด จะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งความด่างของใบแต่ละใบที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถบังคับให้เกิดได้ โดยความด่างของแต่ละใบบ่งบอกถึงความสวยงาม และบ่งบอกถึงราคาด้วยเช่นกัน ส่วนงานเพาะพันธุ์ไม้ด่างนั้นมีการเพาะพันธุ์แบบหลายวิธีแต่ที่นิยมกันก็คือ การชำข้อ โดยสังเกตที่ข้อของไม้ด่างแต่ละต้นและตัดออกตามข้อ และนำไปชำ ถ้ารากเขาออกก่อนก็สามารถนำลงปลูกได้เลย ส่วนใบของไม้ด่างที่จะเติบโตนั้นเฉลี่ยแล้วจะเกิดมาเดือนละ 1 ใบ

 

 

ส่วนในเรื่องการเลี้ยงไม้เหล่านั้นสังเกตที่ความด่างของใบถ้ามีสีขาวมากพยายามอย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง เพราะว่าสีขาวของใบนั้นจะไม่ ทำการสังเคราะห์แสงซึ่งอาจจะทำให้ส่วนสีขาวนั้นเกิดอาการไหม้และเสียหาย ส่วนราคาขายของไม้ด่างชนิดต่างๆนั้นจะยึดราคาของตลาดกลางเป็นหลักซึ่งจะเปรียบเทียบกับตลาดที่ต่างประเทศ และจะนำมาวิเคราะห์ ความด่างของใบ โดยไม้ด่างที่นิยมส่วนใหญ่นั้นจะขายโดยการนับใบ โดยราคาขาย มอนสเตอร่าอัลโบ้ หรือด่างขาวจะขายอยู่ที่ใบละ 5,000 ถึง 10,000 บาท ส่วนมอนสเตอร่าด่างเหลือง อยู่ที่ใบละ 10,000 ถึง 30,000 บาท และส่วนมอนสเตอร่ามิ้น หรือที่เรียกว่าด่างมิ้นนั้นจะขายใบละ 200,000 บาทถึง 4 แสนบาท

 

 

ศุภกิจ กล่าวต่อกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่าตนเองได้เริ่มเลี้ยงไม้ด่างมาตั้งแต่มีการประกาศ work from home ในช่วงแรกเพราะตนได้ทำธุรกิจร้านอาหารหลายแห่ง จึงมีผลกระทบโดยตรง ทำให้ตนต้องปิดร้านชั่วคราวแต่ด้วยความชอบของตนที่หลงใหล และชื่นชอบไม้ด่างถึงได้เริ่มเลี้ยงไม้ด่างตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา และได้ร่วมเข้ากลุ่ม ไม้ด่างในกลุ่มต่างๆจึงได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ และสายพันธุ์จากเพื่อนในกลุ่ม โดยกระแสไม้ด่างที่มาแรง มากในช่วงปีที่ผ่านมา โดยราคาไม้ด่าง ในช่วงของปีที่แล้วจะต่างจากราคาตอนนี้ถึง 10 เท่า เพราะผลพวงมาจาก ที่ เหล่าดาราคนดัง ได้ถ่ายรูปร่วมกับ ไม้ด่าสายพันธุ์ต่างๆ

 

 

โดยส่วนตัว ตนยังคิดว่าตลาดของไม้ด่างนั้น น่าจะซบเซาได้ยาก เพราะตอนนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก อีกประการนึง ไม้ด่างนั้น ไม่สามารถ บังคับให้เป็นลวดลาย ที่เราต้องการได้ จึงทำให้ ลวดลายของไม้ด่างนั้น มีเสน่ห์ กับผู้ที่ชื่นชอบ ต้นไม้ประเภทนี้อยู่ โดยการเพาะชำไม้ด่างของตนนั้นสามารถทำรายได้หลักแสน ต่อเดือน จากการ เลี้ยงเพื่อชื่นชอบ จนทำ เป็นรายได้หลักของครอบครัว

 

 

ท่านใดสนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้เแลกเปลี่ยนได้ที่ศุภกิจ คันธวณิชร้าน นางในชาบูแอนด์กริลล์225/4 ม.1 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีโทร 0891597978

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง