“บิ๊กเล็ก” เผยไทย-กัมพูชา วางไทม์ไลน์ 6 สัปดาห์ 3 เฟส “ถอนอาวุธ ”

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ (บิ๊กเล็ก) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า หากนับตั้งแต่การประชุม GBC เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม และการลงนามปฏิญญาสันติภาพของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ถือเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งในช่วงค่ำของวันที่ 26 ตุลาคม ทั้งสองฝ่ายได้มีการถอนอาวุธออกมาแล้ว ถือเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ แม้จะเป็นอาวุธที่แตกต่างกัน แต่ย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงกลาโหมยึดมั่นในอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และจะไม่ยอมให้ไทยเสียศักดิ์ศรี
พลเอกณัฐพลยอมรับว่า การถอนอาวุธเชิงสัญลักษณ์ของไทยเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันที่ 26 ตุลาคม ส่วนอาวุธที่ไทยคาดหวังให้กัมพูชาถอนออกไปคือ BM 21 ซึ่งเป็นอาวุธที่อันตราย โดยแผนการปฏิบัติการได้กำหนดกรอบเวลาไว้ 6 สัปดาห์ (ประมาณ 1 เดือนครึ่ง) และกัมพูชาก็เห็นชอบ ซึ่งแบ่งการดำเนินการเป็น 3 เฟส คือ เริ่มทันทีในคืนวันที่ 26 ตุลาคม 2568, เฟสที่ 2 เริ่มภายใน 3 สัปดาห์ และเฟสที่ 3 คือ สัปดาห์ที่ 6 โดยการถอนอาวุธจะเป็นไปพร้อมกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งรายละเอียดของอาวุธแต่ละล็อตกำลังอยู่ระหว่างการหารือของกองทัพภาคที่ 2 กับฝ่ายกัมพูชา
สำหรับการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) นั้น รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า จะใช้กรอบการทำงานประมาณ 3 เดือน และสามารถต่อได้ ซึ่งคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะสามารถเห็นผลใน 3 เรื่อง ได้แก่ การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้วัตถุระเบิดตามแนวชายแดนในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว (คาดแล้วเสร็จ 17 ธันวาคม 2568) รวมถึงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย ส่วนเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้น ยืนยันตามหลักการว่าหากอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายใด ให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้รับผิดชอบเก็บกู้ ซึ่งทางคณะ AOT จะลงไปตรวจสอบในพื้นที่ เช่น บริเวณ ปราสาทตาควาย ว่ามีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจริงหรือไม่ โดยเบื้องต้นได้เริ่มดำเนินการแล้ว 13 พื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ตั้งคณะทำงานในเรื่องนี้ โดยมี พลเอกอุกฤษฏ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน และมีหน่วยงานร่วม ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อขับเคลื่อนและสร้างความสบายใจให้กับประชาชน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
