รีเซต

ฟัง 2 มุม ATK แพทย์ชนบท โต้ อ.นิด้าคนดัง หลังเปิดเมล์ WHO ตอบอภ. ไม่ได้รับรองชุดตรวจ

ฟัง 2 มุม ATK แพทย์ชนบท โต้ อ.นิด้าคนดัง หลังเปิดเมล์ WHO ตอบอภ. ไม่ได้รับรองชุดตรวจ
มติชน
23 สิงหาคม 2564 ( 13:16 )
72
ฟัง 2 มุม ATK แพทย์ชนบท โต้ อ.นิด้าคนดัง หลังเปิดเมล์ WHO ตอบอภ. ไม่ได้รับรองชุดตรวจ

 

จากกรณีที่ องค์การเภสัชกรรม ได้เปิดประมูลอุปกรณ์แอนติเจน เทสต์ คิท โดยอุปกรณ์ของ เล่อ ปู๋ ได้รับคัดเลือกเนื่องจากมีการเสนอราคาที่ต่ำสุด ขณะที่ แพทย์ชนบท ไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่ได้มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก กระทั่งมีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาจากมาตรฐานอนามัยโลก กลายเป็นข้อถกเถียงในสังคม

 

 

ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ถึงกรณี การประมูลดังกล่าว หลังจากออกมาโต้ว่า องค์การอนามัยโลก ไม่ได้รับรองประเภท โฮมยูส อย่างที่มีการอ้าง

 

 

ผศ.ดร.อานนท์ กล่าวว่า ที่ต้องออกมา เพราะผมต่อสู้กับความไม่ถูกต้องของ สปสช.มานานแล้ว เพราะเขาไม่มีอำนาจในการจัดซื้อยา เป็นหน่วยจ่ายเงิน สถานพยาบาลต่างหากที่มีอำนาจในการจัดซื้อ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความลงมา ทุกหน่วยงานตีความแบบนี้ลงมาหมด จน คสช.มีคำสั่งมา และก็เห็นความพยายามของ สปสช. มีความไม่ชอบธรรม บอกว่ากำหนดอัตราการจ่ายเงิน แต่มาล็อกสเป็ก ว่าต้องซื้ออันนั้นอันนี้ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะมันขัดกับหลักกฎหมาย

 

 

เมื่อถามว่า แพทย์ชนบท อยากให้ซื้อสแตนดาร์ด คิว จากเกาหลี แต่ก็ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก เหมือนกัน อานนท์ กล่าวว่า ตัวที่ได้รับการรับรองจาก WHO จริงๆ เป็นคนละรหัสกัน เพราะที่องค์การอนามัยโลกรับรอง มีแค่ไม่กี่อัน เนื่องจากไม่ได้มีคนสนใจจะไปขอ ประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่ได้จำเป็นต้องเอามาตรฐานองค์การอนามัยโลกมาใช้ นอกจากประเทศด้อยพัฒนาที่อยากจะแสวงหาผลประโยชน์

 

 

“มีลิสต์ของ emergency use list ซึ่งเราเช็กแล้ว เป็นคนละรหัส อันที่ใช้ในบ้าน กับอันที่ใช้ในแพทย์ นักวิชาชีพ เป็นคนละรุ่น จะบอกว่ารุ่นที่ WHO รับรอง เป็น โปรเฟสชั่นแนล ยูส จะมารับรองโฮม ยูส ด้วย มันไม่ใช่ และก็มีอีเมลล์ที่องค์การอนามัยโลก ตอบกลับมากับองค์การเภสัชกรรม ว่าคนละรุ่นกัน WHO ไม่เคยรับรอง”

 

 

ผู้ดำเนินรายการถามย้ำว่า อ้างอิงจากอีเมลล์ที่ WHO ตอบกลับองค์การเภสัชกรรม ได้ข้อมูลจาก อภ.หรือไม่ ดร.อานนท์ กล่าวว่า ได้จากที่ไหน ก็เป็นสิทธิที่จะสงวนแหล่งข่าวได้ ในอีเมลล์เขียนไปถามชัดเจนว่า รุ่นที่เปิดประมูลกับอภ. ได้รับการรับรองจาก WHO ไหม ได้คำตอบว่า ไม่ได้รับการรับรอง

 

 

“คราวนี้้ต้องถามว่า ท่านนายกฯ มีมติคณะรัฐมนตรีรับรองแล้ว และจะเอาอย่างไรต่อ ตอนนี้มีลักษณะของการล็อกสเป็ก และก็ฮั้วประมูล ซึ่งจะต้องมีคนติดคุกตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล 42 เป็นการทุจริตในหน้าที่ ม.157 ได้ยินข่าวว่า มีคนไปร้องแล้ว คดีก็คงต้องดำเนินต่อ เพราะทำแบบนี้ไม่ถูก”

 

 

เมื่อถามว่า ชมรมแพทย์ชนบท ได้ชี้แจงว่า สินค้าที่เกี่ยวกับชีวิตคน จะคำนึงถึงราคาไม่ได้ ต้องคำนึงถึงมาตรฐาน ความปลอดภัยด้วย อานนท์ กล่าวว่า แล้วประเทศพัฒนาแล้ว เยอรมัน เบลเยียม เขาใช้กันไม่มีปัญหาอะไร เล่อปู๋ ก็เป็นรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดของจีน ในด้านการแพทย์และยา ก็ขายไปทั่วโลก ตกลง ทั่วโลกมาตรฐานห่วยกว่าชมรมแพทย์ชนบทหรือ

 

 

ที่ชมรมแพทย์ชนบท บอกจะไปตรวจสอบอีก ถามว่าคุณมีหน้าที่เป็นหน่วยวิจัย ตรวจสอบคุณภาพอุปกรณ์แพทย์หรอ คุณกลับไปรักษาคนไข้ให้ดีก่อน และที่มาทำโฮม ไอโซเลชั่น ในกทม. และทิ้งคนไข้ ไม่ดูแลคนไข้ ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก่อนไหม คุณมีความรู้ความสามารถอะไรที่จะมาวิจัยว่าเครื่องมืออันไหน ดีหรือไม่ดี คุณออกแบบงานวิจัยเป็นไหม ถ้าคุณออกมาปกป้องขนาดนี้ โดยมีผลประโยชน์อะไร ก็เป็นสิทธิที่คนถามได้

 

 

“คำสั่งนายกฯ ก็ไม่มีผลย้อนหลัง ถ้านายกฯ สั่งล้มประมูลเขาก็ฟ้องได้ อภ.ถ้าล้มประมูล ก็โดนฟ้องได้เหมือนกัน ต้องดำเนินการต่อ เพราะประมูลเสร็จแล้ว และคนก็รอใช้อยู่”

 

 

เมื่อถามว่า เป็นการชี้ช่องให้ฟ้องหรือไม่ อานนท์ กล่าวว่า เขาก็มีสิทธิฟ้อง ก็เขาทำถูกขั้นตอนทุกอย่าง ชนะการประมูลด้วยราคาต่ำสุด ราคาต่างกัน 40-50% ถือว่าการประมูลชอบธรรม ส่วนเรื่องบริษัทลูกที่มาประมูลนั้น เขาก็เป็นบริษัทลูก ของบริษัทใหญ่ การตั้งบริษัทลูกแบบนี้ บริษัทใหญ่หลายแห่ง ก็สะดวกใจจะใช้วิธีแบบนี้ อย่างประมูลดาวเทียม ไทยคมก็เช่นกัน มันเป็นเรื่องปกติ

 

 

ขณะที่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้ให้สัมภาษณ์ ชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า WHO เขารับรอง 4 ราย ซึ่งเป็น โปรเฟสชั่นแนล ยูส ทั้งหมด คำว่า โปรเฟสชั่นแนล ยูส กับ โฮม ยูส นี้ ต่างกันแค่ ไม้สวอป ไม้ยาวไม้สั้น โปรเฟสชั่นแนล ยูส หากนำมาใส่ไม้สั้น สามารถใช้เป็นโฮมยูส ได้เลย เราต้องการตัวคลัสเซ็ต ATK ที่เป็นกระดาษกรอง แบบคุณภาพสูงเนี่ย ตรงนั้นหละที่ต้องการ ไม้สวอปนี้ ธรรมดา สำคัญคือตัวแถบ ต้องมีคุณภาพสูง เราก็ต้องการโปรเฟสชั่นแนล ยูส ที่เอามาใส่ไม้สวอปสั้น เอามาใช้

 

 

“ผมคิดว่าหัวใจที่ อ.อานนท์ หรือ สังคม ยังไม่เข้าใจประเด็นหนึ่ง ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความตั้งใจเดิมของการซื้อ 8.5 ล้านเทสต์ คือให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ ในการตรวจเชิงรุก ตอนอยู่ในบอร์ด สปสช. ก็ยังเป็นเช่นนี้ รองปลัดก็พูดชัดเจน ว่าความขาดแคลน เอทีเค สูงในโรงพยาบาล ก็ล็อกคุณภาพสูงไว้ ว่าต้องเป็น WHO รับรอง ตามที่คณะกรรมการต่อรองราคาฯ ตั้งไว้ สปสช.ก็ตั้งใจเช่นนั้น พอไปถึง อภ. ก็เอาคำว่า WHO ออก และเอารุ่นโฮมยูส มาแข่ง”

 

 

“นั่นทำให้การตรวจของบุคลากรทางการแพทย์ ต้องมาใช้โฮมยูส ซึ่งมันไม่ถูกต้อง ถ้าจะใช้โฮมยูส ราคามันแค่ 1 ดอลลาร์ ถ้าซื้อเยอะก็เหลือแค่ 20 กว่าบาท จะซื้อราคากลาง 120 มันไม่ถูก ที่ต้องตั้งราคา กลาง 120 เพราะอะไร เพราะเขาต้องการ โปรเฟสชั่นแนล ยูส คำถามคือ ซื้อมาให้ใครใช้ ถ้าซื้อแจกประชาชน 8.5 ล้านมันไม่พอ สปสช.กำลังตั้งงบประมาณ และแน่นอน จะตั้งงบให้ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ และแจกกัน 50 ล้านเทสต์ ให้ประชาชนตรวจตัวเอง”

 

 

เมื่อถามว่า แต่มติออกมา คนเข้าใจว่าจะแจกประชาชน ทำไมเปลี่ยนไปจากเดิม หมอสุภัทร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องทบทวนสาระแต่ต้น พอเรื่องวุ่นวายก็เริ่มสับสน ก็กลับไปรีวิวทั้งหมด คิดว่า ศบค.คงทบทวนแล้ว ถึงยืนยันว่าต้องใช้รุ่นที่มีมาตรฐาน จนเป็นมติครม.ออกมา

 

 

ถามว่า ครั้งแรก จะซื้อให้โรงพยาบาลใช้ แบบ โปรเฟสชั่นแนล ยูส และบอร์ด สปสช.ก็พูดชัดเจน คำถามคือ ทำไมตอนที่เลขาฯสปสช. แถลงมติ ว่าแจกชาวบ้านผ่านร้านยาต่างๆ

 


นพ.สุภัทร กล่าวว่า นี่ต้องไปถาม หมอจะเด็จแล้ว การไปแจกชาวบ้าน 120 บาท มันตลกแล้ว ภาษีประชาชน หมดแล้ว มันควรจะซื้อได้ที่ 20 บาท

 

 

ผู้ดำเนินรายการ ถามต่อว่า ในส่วนของคณะทำงานการต่อรองราคาฯ สื่อสารไปที่อภ. อย่างหนึ่ง แต่ที่ เลขาฯ สปสช.สื่อสารให้ชาวบ้านฟัง ก็อีกอย่างหนึ่ง นี่คือความสับสนใช่ไหม นพ.สุภัทร กล่าวว่า ถ้าใช้โปรเฟสชั่นแนล ยูส ผมใช้ตรวจเชิงรุก ถ้าเจอคนป่วยเป็นโควิดที่บ้านมีอีก 3 คน ที่ผลลบ ที่เสี่ยง ก็สอนเขา และให้เอากลับไป และตรวจตัวเอง เราสามารถใช้โปรเฟสชั่นแนล ยูส ให้ชาวบ้านเอากลับไปตรวจได้ ไม่ต้องเอามาหาเรา ไม่ได้แจกดะ ให้กลุ่มเสี่ยง ไม่เช่นนั้นไม่คุ้มค่ากับราคา แต่การจะเปิดประเทศ เขาจะมีนโยบายแจกเอทีเค ให้ กับประชาชน แต่อันนั้นจะเป็นแบบโฮมยูส ที่มีราคากลาง ซึ่งไม่ควรแพงกว่าที่ขายที่ยุโรป ในการประชุม ทุกหน่วยงานก็ร่วมกันประชุมอยู่ พอเอา WHO standard ออก สเป็กอย. ดันเป็นสเป็กกว้าง เมื่อประมูลได้โฮมยูส แล้วจะทำอย่างไร

 

 

“ประเด็นที่สำคัญคือ มีมติ ครม.ที่ชัดเจน และมีข้อสั่งการนายกฯ ที่ชัดเจนว่าต้องมีมาตรฐานองค์การอนามัยโลก อภ.สามารถจะยึดมติครม. ยึดข้อสั่งการนายกฯ จดหมายเชิญของ อภ. ที่เชิญมายื่นประมูล ก็บอกชัดเจนว่า อภ.สามารถยกเลิกได้”

 

 

ส่วนข้อกังวลว่า ข้อสั่งการออกมาหลังประมูล จะฟ้องได้หรือไม่นั้น นพ.สุภัทร กล่าวว่า ก็ไปว่ากัน เราเห็นว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่ประหยัดงบประเทศชาติมหาศาล เล่อปู๋ วปอ.61 ท่านอนุทิน นุสาสิริ ที่สนิทกัน สามารถคุยกันได้ ถ้ามองประโยชน์รวมของประเทศชาติ เป็นเรื่องที่คุยกันได้

 

 

ทั้งนี้ นพ.สุภัทร ได้ทิ้งท้ายว่า ที่สำคัญคือ วันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี และดูเหมือนจะมีความพยายามที่จะปรับเปลี่ยน แก้ไข มติครม. ที่พูดเช่นนี้ เพราะ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา อภ.หรือผู้เกี่ยวข้องเอง ไม่ได้กระตือรือร้นทำตามข้อสั่งการของท่านนายกฯ หรือ มติครม.เลย ไม่มีเลย เสียเวลาไปหนึ่งอาทิตย์ โดยไม่ได้มีโอกาสได้ใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้เร็วเลย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง