ดร.มาโนชญ์ คาดสงครามอิสราเอลยืดเยื้อ ราคาน้ำมันมีโอกาสพุ่ง
#KBANK #ทันหุ้น - ผศ.ดร.มาโนชญ์ มีมุมมองต่อสงคราม อิสราเอล – ฮามาส อาจลุกลาม ส่งผลต่อราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
ในงาน KS-Expert series ที่จัดโดย KBANK ได้เชิญ ผศ.ดร.มาโนชญ์ อารีย์ เพื่อพูดคุยถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางและบทสรุปที่อาจเกิดขึ้น ดร.มาโนชญ์ คาดว่าความขัดแย้งจะรุนแรงมากขึ้นและสงครามในฉนวนกาซาจะยืดเยื้อออกไปหลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 ด้วยสาเหตุประกอบดังนี้
1) การที่อิสราเอลเข้าโจมตีฉนวนกาซาและกำจัดกลุ่มฮามาส
2) การสนับสนุนปาเลสสไตน์ของรัฐอาหรับและเป้าหมายที่จะก่อตั้งรัฐปาเลสสไตน์
3) การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ของตะวันออกกลางหลังสงครามตัวแทนลดความรุนแรงลงภายหลังจากที่ซาอุดิอาระเบียและอิหร่านประกาศว่าจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต
ผศ.ดร.มาโนชญ์ คาดการณ์ว่ามี 4 สมมติฐานที่อาจเป็นไปได้ของสงครามในฉนวนกาซา
ได้แก่
1) การหยุดยิง (ที่มองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก)
2) สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสคาดจะยังอยู่ในฉนวนกาซา
3) ความขัดแย้งในฉนวนกาซาบานปลายเป็นสงครามในภูมิภาคทั้งกับกลุ่มที่ไม่ใช่รัฐ (เช่น Hezbollah ) หรือกับกลุ่มประเทศ (อิหร่าน, ซีเรีย, อียิปต์และสหรัฐฯ)
4)เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
ผศ.ดร.มาโนชญ์ คาดว่าสงครามที่ฉนวนกาซาจะยืดเยื้อออกไปอีกอย่างน้อย 1-2 เดือน จากการเจรจาต่อรองตัวประกันและอพยพผู้ลี้ภัยจากปาเลสสไตล์เข้ามายังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี สงครามอาจสิ้นสุดลงในเวลา 1-2 สัปดาห์หากอิสราเอลตัดสินใจยกเลิกการโจมตีฉนวนกาซาและเจรจาขอคืนตัวประกัน แต่สงครามภูมิภาคกับกลุ่มที่ไม่ใช่รัฐคาดจะทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไปเพราะเป็นเรื่องยากที่จะระบุศัตรูในสงครามที่ไม่ใช่รูปแบบปกติ
บล.กสิกรไทยคาดผู้เล่นกลุ่มน้ำมันจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จากผลกระทบจากสงครามในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นต่อประเทศไทยจะส่งผลกระทบทางอ้อมจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น กลุ่มที่คาดได้ประโยชน์หลักคือกลุ่มต้นน้ำ (PTTEP) และโรงกลั่น (TOP, BCP และ SPRC ขณะที่กลุ่มที่คาดจะได้รับผลกระทบเชิงลบ คือ กลุ่ม anti-commodities จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นหรือจากนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือครัวเรือน ประกอบด้วยกลุ่มสายการบิน (AAV และ BA), กลุ่มขนส่ง(RCL และ KEX) และกลุ่มผู้ประกอบการน้ำมันปลีก (OR และ PTG) ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้รัฐบาลต้องตรึงราคาน้ำมันไว้ที่ 30 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/2567 และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ของผู้ประกอบการสินเชื่อรถบรรทุก (THANI, ASK, SINGER และ MICRO)