WHO จี้ชาติร่ำรวยบริจาควัคซีนโควิด ชี้ไร้ข้อสรุปชัดบูสเตอร์เข็ม 3 จำเป็น
องค์การอนามัยโลกออกมาระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็ม 3 เป็นบูสเตอร์โดส พร้อมกับเรียกร้องให้มีการแบ่งปันวัคซีนให้กับชาติยากจนซึ่งยังไม่ได้มีการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน แทนที่จะถูกนำไปใช้เป็นบูสเตอร์ในชาติร่ำรวย
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกออกมาระบุว่า ความไม่เท่าเทียมทางด้านวัคซีนอันผิดปกติที่เกิดขึ้นในโลก กำลังถูกผลักดันไปด้วยความละโมบโลภมากของผู้คน พร้อมกับเรียกร้องให้บริษัทผลิตวัคซีนให้ความสำคัญกับการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ให้กับชาติยากจน แทนที่จะพยายามล็อบบี้ให้ชาติร่ำรวยเพิ่มโดสในการฉีดวัคซีนมากขึ้น
“เราต้องเลือกหนทางที่ถูกต้องอย่างมีสติและจิตสำนึก โดยไม่ละทิ้งผู้ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน เพราะสิ่งที่สำคัญเร่งด่วนที่สุดคือการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่โดสเดียว”กีบรีเยซุสกล่าว
กีบรีเยซุสได้เรียกร้องให้บริษัทยาสำคัญของสหรัฐอย่างไฟเซอร์และโมเดอร์นาส่งวัคซีนให้กับโครงการแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก (โคแวกซ์) แอฟริกา และประเทศที่มีรายได้ต่ำได้รายได้ปานกลางอื่นๆซึ่งมีการฉีดวัคซีนไม่มากนัก
หลังจาก 10 สัปดาห์ที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกลดลง ผู้นำองค์การอนามัยโลกระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันได้เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เดลต้ากำลังทำให้เกิดคลื่นของหายนะระลอกใหม่
ดร.ซอมญ่า สะวามินาธาน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกย้ำว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนบูสเตอร์ พร้อมย้ำว่าองค์การอนามัยโลกจะให้คำแนะนำในเรื่องการฉีดวัคซีนเข็ม 3 อย่างแน่นอน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ใช่เพราะบริษัทใดบริษัทหนึ่งประกาศว่าควรต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเป็นบูสเตอร์โดส
ด้านนายไมค์ ไรอัน หัวหน้าฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกแนะนำว่า หากชาติร่ำรวยตัดสินใจที่จะฉีดวัคซีนเข็ม 3 แทนที่จะบริจาควัคซีนเหล่านั้นให้กับประเทศกำลังพัฒนา พวกเขาจะถูกจ้องมองด้วยความโกรธแค้นและน่าอับอาย และว่าความล้มเหลวในการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน บวกกับการที่ประเทศร่ำรวยปฏิเสธที่จะแบ่งปันวัคซีนที่มีให้กับประเทศยากจนเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง
ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นาสัญญาที่จะแบ่งวัคซีนจำนวนไม่มากนักให้กับโครงการโคแวกซ์ แต่วัคซีนจำนวนมากถูกเก็บไว้ให้ประเทศร่ำรวย ขณะที่ความพยายามของสหประชาชาติก็ไม่มีความก้าวหน้าเท่าไหร่นักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประเทศที่ยากจนเกือบ 60 ประเทศต้องยุติโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 กลางคัน เนื่องจากผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ไม่สามารถที่จะแบ่งปันวัคซีนให้กับประเทศเหล่านี้ได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้
การออกมาเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางรายงานข่าวที่ว่า ผู้แทนของบริษัทไฟเซอร์ได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของบริษัท ที่จะให้รัฐบาลกลางอนุมัติการฉีดวัคซีนเข็มสามเป็นบูสเตอร์โดส ซึ่งไฟเซอร์ระบุว่าจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยปกป้องไวรัสกลายพันธุ์ที่กำลังเป็นที่วิตกกังวลกันได้ด้วย
ขณะที่อังกฤษก็กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนบูสเตอร์ให้กับประชาชนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ โดยจะพุ่งเป้าไปที่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีและกลุ่มคนที่เปราะบาง