ประวิตร ถก กนช. นัดพิเศษ ไฟเขียว 5 โครงการแก้น้ำท่วม กทม.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) นัดพิเศษ ว่า ที่ประชุม กนช. ได้อนุมัติ 5 โครงการสำคัญที่หน่วยงานมีความพร้อมในการขอตั้งงบประมาณประจำปี 2565 โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการโดยกรุงเทพฯ จำนวน 4 โครงการ ในการบรรเทาและแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางไผ่ 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ 3.โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางนาจากคลองเคล็ดถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา 4.โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อจากถนนรัชดาภิเษกถึงคลองลาดพร้าว เป็นการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ส่วนอีกหนึ่งโครง คือ โครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี
ด้าน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ดำเนินการโครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม ซึ่งได้ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดปัตตานีและคณะกรรมการลุ่มน้ำปัตตานี มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำดิบ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา อาคารโรงประปา มีกำลังการผลิต 1,200 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/ชั่วโมง หรือประมาณ 28,800 ลบ.ม./วัน สามารถผลิตประปาได้ปริมาณ 10.52 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี และระบบระบบท่อหลัก
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า โดยออกแบบด้วยหลักการระบบโครงข่ายท่อ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่ต้องกระจายน้ำไปทุกทิศทาง และป้องกันความเสียหายของการส่งน้ำอันเนื่องจากการก่อวินาศกรรม มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี หรือระหว่างปี 2565–2566 สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ได้แก่ หนองจิก แม่ลาน โคกโพธิ์ และเมืองปัตตานี ช่วยเพิ่มศักยภาพการพัฒนาโครงการเมืองต้นแบบ เขตอุตสาหกรรมหนองจิก และโครงการท่าเรือน้ำลึก รวมทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางการทหารและแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ และที่สำคัญจะทำให้มีน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภคอย่างพอเพียง เป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น
“นอกจากการพิจารณาเห็นชอบโครงการสำคัญที่มีความพร้อมในการดำเนินงานทั้ง 5 โครงการแล้ว ในวันนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ที่มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สทนช. กระทรวงมหาดไทย กทม. องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมโยธาธิการและผังเมือง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และหน่วยงานภาคเอกชน ได้บูรณาการขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียและการระบายน้ำ เสริมสร้างความปลอดภัยการสัญจรทางน้ำของประชาชน ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ แก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำ รวมทั้งบูรณาการบริหารจัดการน้ำ ให้ครอบคลุมและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาคลองแสนแสบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ระบบนิเวศมีความสมบูรณ์ได้อีกครั้ง” นายสมเกียรติ กล่าว