“Fortnite” ปฏิวัติเกมด้วย AI ใช้เสียงดาราผู้ล่วงลับ James Earl Jones พากย์ "Darth Vader” !

ฟอร์ทไนท์ (Fortnite) เกมออนไลน์แนวแอ็กชันยิงปืนแบบแบทเทิลรอยัล (Battle Royale) ที่ได้รับความนิยมระดับโลก และกลายเป็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมยุคใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเกมเมอร์ทั่วโลก เปิดตัวตัวละคร "ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader)" วายรายในตำนานจากภาพยนตร์ สตาร์วอร์ (Star Wars) ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ มาสร้างเสียงพูดใหม่ ดัดแปลงมาจากเสียงของ เจมส์ เออร์ โจนส์ (James Earl Jones) นักแสดงผู้ล่วงลับที่ให้เสียงตัวละครนี้มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นที่พูดถึง เขย่าวงการเทคโนโลยี ทั้งในแง่ของนวัตกรรมและความกังวลด้านจริยธรรม
ปลุกเสียงพากย์ในตำนาน สู่การสร้างเสียงจริงให้ตัวละคร
โดยปัจจุบันนี้ ผู้เล่นเกม ฟอร์ทไนท์ (Fortnite) ทั่วโลก จะได้ตื่นตาตื่นใจกัไปบการปรากฏตัวของ ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ในฐานะบอสในโหมดแบทเทิลรอยัล (Battle Royale) ที่ไม่เพียงแค่เป็นตัวละครทั่วไป แต่ยังสามารถโต้ตอบกับผู้เล่นผ่านวอยซ์แชทได้แบบเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ขับเคลื่อนโดยกูเกิลเจมิไน (Google Gemini) ทำให้ตัวละครนี้สามารถตอบคำถามของผู้เล่นได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพลัง (The Force) จักรวรรดิกาแลกติก (Galactic Empire) หรือแม้แต่กลยุทธ์ในเกม
ตอบฉลาดเกินไป จนกลายเป็นปั่น ?
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการโต้ตอบของปัญญาประดิษฐ์ AI ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ที่ฉลาดมากนี้ ก็ทำให้เกิดคลิปวีดีโอไวรัลตลกขบขันมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์ AI นี้สามารถตอบคำถามที่หลากหลาย และบางครั้งก็เกินความคาดหมายของผู้ที่พูดคุยอยู่
อีกทั้งมีกรณีที่ปัญญาประดิษฐ์ AI พูดคำหยาบคาย ซึ่ง อีปิกเกม (Epic Games) บริษัทเกมชื่อดังระดับโลกที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาเกมและให้บริการแพลตฟอร์มเกมดิจิทัล ได้ทำการแก้ไขรับมือได้อย่างรวดเร็ว โดยการออกแพทช์แก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกภายในเวลาเพียง 30 นาทีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยอธิบายว่าได้เพิ่มกฎและคำสั่งเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้ AI พูดคำหยาบ และได้ใช้การตั้งค่าความปลอดภัยของเจมิไน (Gemini) รวมถึงแนวทางเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดหลักเกณฑ์ชุมชนของอีปิก (Epic)
นอกจากนี้อีปิกเกม (Epic Games) ยังได้วางมาตรการเพื่อป้องกันประสบการณ์เชิงลบ โดยหากเกมตรวจพบว่าผู้เล่นพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำให้ ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ละเมิดกฎ ตัวละครจะออกจากทีมของผู้เล่น และไม่สามารถรับสมัครได้อีกในเซสชันนั้น ๆ
นวัตกรรมกับประเด็นจริยธรรม
การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI มาใช้ในการสร้างเสียงนักแสดงผู้ล่วงลับนี้ จุดประกายให้เกิดการสนทนาเกี่ยวกับจริยธรรมอย่างกว้างขวาง แม้ว่าในกรณีนี้ครอบครัวของเจมส์ เออร์ โจนส์ (James Earl Jones) จะให้การอนุญาตอย่างชัดเจน และนักแสดงเองก็เคยทำข้อตกลงกับบริษัทด้าน AI เรสปีเชอร์ (Respeecher) บริษัทเทคโนโลยีด้านเสียงเพื่อให้สามารถสร้างเสียงของเขาขึ้นมาใหม่สำหรับโปรเจกต์ในอนาคตของดิสนีย์ (Disney) แต่ก็ยังมีการตั้งคำถามว่าเทคโนโลยีที่สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดและคุกคามงานของนักแสดงเสียงในอนาคตนั้น ควรได้รับการยอมรับในวงกว้างหรือไม่ ?
การนำปัญญาประดิษฐ์ AI มาใช้ในเกม ฟอร์ทไนท์ (Fortnite) ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ในการสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงและโต้ตอบได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม มันยังคงเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับผู้พัฒนาในการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรม, ความบันเทิง, และความรับผิดชอบด้านจริยธรรมไปพร้อมกัน