เปิดชนวนเหตุ ผู้ลี้ภัยศูนย์อพยพฮือประท้วง เผยความเสียหาย เผาบ้าน-รถจนท.พังเละ
เปิดชนวนเหตุ ผู้ลี้ภัยศูนย์อพยพฮือประท้วง เผยความเสียหาย เผาบ้าน-รถจนท.พังเละ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้ เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย
วันที่ 15 ธ.ค.64 จากกรณีผู้หนีภัยบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ก่อเหตุจลาจลทำลายและเผาทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ชนวนเหตุมาจากเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยประจำสำนักงานศูนย์อพยพบ้านแม่หละเข้าไปว่ากล่าวตักเตือนผู้หนีภัย 2 รายที่ขี่รถจักรยานยนต์บรรทุกสิ่งของและไม่ใส่หน้ากากอนามัย เจ้าหน้าที่ให้หยุดรถแต่ทั้งสองไม่ยอมหยุดตรวจ จนสิ่งของที่บรรทุกมาเกิดตกหล่นได้รับความเสียหาย สร้างความไม่พอใจให้ผู้อพยพทั้งสองเป็นอย่างมากที่สิ่งของเสียหาย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันไว้เป็นการลงโทษชั่วคราว เนื่องจากผู้อพยพทั้งสองฝ่าฝืนกฎระเบียบส่วนรวม แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากผู้อพยพทั้งสองไม่พอใจและปลุกระดมคนจำนวนมากมากดดันให้เจ้าหน้าที่คืนรถจักรยานยนต์ให้ แต่ระหว่างเจรจาและเจ้าหน้าที่ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหาย กลับเกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น เนื่องจากมีกลุ่มมวลชนรวมกว่า 1 พันคนที่เดินทางมาสมทบ สร้างความชุลมุนวุ่นวาย จากนั้นกลุ่มมวลชนที่ไร้แกนนำตรงเข้าทำลายสิ่งของทุกอย่างของเจ้าหน้าที่ รวมถึงเผารถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่และบ้านพักเสียหายไปกว่า 10 หลัง จนสถานการณ์บานปลายเจ้าหน้าที่
เหตุการณ์คลี่คลายเมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา หลังจากนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผวจ.ตาก รักษาราชการแทนผวจ.ตาก พร้อมด้วยนายสวนิตสุริยกุล ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดตาก เดินทางไปบัญชาการควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง จนสถานการณ์คลี่คลายไปในระดับหนึ่ง
ล่าสุดทหารพราน ฉก.ทพ.ที่ 35 ตำรวจ สภ.ท่าสองยางและฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง ระดมกำลังเข้าไปควบคุมโดยรอบพื้นที่ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในพื้นที่ใจกลางศูนย์อพยพแห่งนี้ได้ เนื่องจากศูนย์อพยพยังคงมีมวลชนหลายคนกระจายตัวอยู่ภายในพื้นที่เกิดเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปทำการเข้าเคลียร์พื้นที่ในสำนักงานภายในศูนย์อพยพบ้านแม่หละ เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย หลังยังพบว่ายังคงมีมวลชนหลายคนยังอยู่ในอารมณ์รุนแรงอยู่ โดยรอบพื้นที่เกิดเหตุจนเจ้าหน้าที่ต้องเสริมกำลังและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด