"แรงงานกัมพูชา" หายไป ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาเข้าแทนที่ วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดโอกาส ?

ข้อมูลจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว พบว่า นับแต่เกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งยังมีความตึงเครียดมาถึงทุกวันนี้

จำนวนแรงงานกัมพูชาในไทย ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเกือบ 520,000 คน เหลือไม่ถึง 5 แสนคนในเดือนสิงหาคม และข้อมูลล่าสุดเดือนตุลาคม พบว่าแรงงานกัมพูชาเหลือเพียง 407,000 คนเท่านั้น กล่าวได้ว่า หายไปกว่าแสนคนเลยทีเดียว

และนี่เฉพาะตัวเลขแรงงานที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น

แรงงานกัมพูชาที่หายไป ทำให้ทางการไทยมองหาแรงงานชาติอื่นมาทดแทน และมันก็กลายเป็นโอกาสสำหรับผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในไทยมาหลายปี 

ยกตัวอย่าง ตุน มิน ลัต ชนกลุ่มน้อยเมียนมาที่ลี้ภัยสงครามกลางเมือง มาไทยเมื่อ 19 ปีก่อน และอาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพมาโดยตลอด ไม่มีงาน และต้องพึ่งเงินช่วยเหลือจาก USAID ของสหรัฐฯ 

มาวันนี้ เขาได้โอกาสมีงานทำแล้ว โดยทำงานในสวนลองกอง แทนที่คนงานกัมพูชาที่หายไป 

"ครอบครัวเราอยู่กันที่ค่ายอย่างยากลำบากมาก หารายได้ไม่ได้เลย ยิ่ง USAID ตัดเงินช่วยเหลือ เราแทบไม่มีชีวิตรอด โอกาสได้งานนี้ช่วยชีวิตเรา เราขอบคุณมาก ๆ  เป็นครั้งแรกเลยที่ครอบครัวเห็นอนาคต เหมือนหลุดพ้นความสิ้นหวังยาวนาน 19 ปีในค่าย ชีวิตเราจะได้เดินหน้าต่อ" ตุน มิน ลัต แรงงานชาวเมียนมา / ผู้ลี้ภัย

แม้รายได้จะไม่มากนัก เขาและแรงงานชนกลุ่มน้อยเมียนมา รวม 5 คน จะได้เงินรวม 1,000 บาทต่อวัน แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้น จากที่รอโอกาสมายาวนาน 

และไม่ใช่แค่กลุ่มของเขาเท่านั้น แต่ผู้ลี้ภัยอีกหลายร้อยคนที่เป็นชนกลุ่มน้อย และพำนักอยู่ตามค่ายอพยพในไทยมานาน ก็ได้โอกาสนี้เช่นกัน

ผู้อำนวยการ เดอะ บอร์เดอร์ คอนซอร์เทียม หรือ TBC ชี้ว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ซึ่งกว่า 40% เกิดในค่ายผู้อพยพในไทย ได้โอกาสทำงาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นการแก้ปัญหาระยะยาว ให้กับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่อาศัยในค่ายต่าง ๆ ของไทย มานานหลายสิบปี

และมาตรการนี้ของไทย ก็ได้รับคำชื่นชมจากสหประชาชาติด้วย ที่มองว่า นี่เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันทางสังคมสำหรับผู้ลี้ภัยในประเทศไทย

โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยจากประเทศเมียนมา ตามแนวชายแดน มากกว่า 80,000 คน