ยอดพลเรือนเสียชีวิตจากเหตุชายแดนเพิ่มเป็น 15 ราย รพ.กระทบ 20 แห่ง

ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ขณะโรงพยาบาลหลายแห่งได้รับผลกระทบ

วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.00 น. กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์ผลกระทบด้านสาธารณสุขจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยในรอบวันพบว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ที่จังหวัดสุรินทร์ ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในกลุ่มพลเรือนอยู่ที่ 15 ราย

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 38 ราย แบ่งเป็น

• บาดเจ็บสาหัส 12 ราย
• บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
• บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย

ขณะนี้ยังมีผู้ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล (admit) จำนวน 11 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บสาหัส 8 ราย และบาดเจ็บปานกลาง 3 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับการรักษาจนกลับบ้านได้แล้ว 13 ราย

โรงพยาบาล 20 แห่งได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ

ในส่วนของสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า

โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รวม 20 แห่ง

• ปิดบริการทั้งหมด 11 แห่ง
• ปิดบางส่วน 9 แห่ง
• โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบถึง 149 แห่ง

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ได้มีการจัดทีมปฏิบัติการด้านสาธารณสุขลงพื้นที่แล้ว 548 ทีม จากทีมที่เตรียมพร้อมทั้งหมด 1,221 ทีม โดยทีมปฏิบัติการที่ลงพื้นที่ประกอบด้วย MERT, Mini MERT, ALS, JIT, MCATT และ SEhRT

ดูแลสุขภาพจิตประชาชนอย่างใกล้ชิด

การดูแลด้านสุขภาพจิตถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจเร่งด่วนในพื้นที่เสี่ยง กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการ คัดกรองด้านสุขภาพจิตไปแล้ว 21,007 ราย พบผู้มีภาวะเครียดระดับสูง 293 ราย และมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 41 ราย ซึ่งขณะนี้มีทีม MCATT ซึ่งประกอบด้วยจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเข้าให้ความช่วยเหลือทุกรายแล้ว

รัฐมนตรีกำชับทุกฝ่ายเร่งดูแลสุขอนามัยในศูนย์พักพิง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานด้านสาธารณสุข เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ รวมถึงเน้นย้ำการดูแลผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในศูนย์พักพิงทั้งในมิติของ สุขภาพกาย สุขภาพใจ การควบคุมโรค และสุขอนามัยโดยรวม