สหราชอาณาจักรเตรียมปฏิรูประบบอุทธรณ์คำขอลี้ภัย ตั้งเป้าลดผู้อพยพพักในโรงแรม

รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังเดินหน้าแผนการปฏิรูประบบการอุทธรณ์คำขอลี้ภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้อพยพที่ต้องพักอาศัยในโรงแรมระหว่างรอคำตัดสิน

แนวทางใหม่คือการจัดตั้งองค์กรอิสระขึ้นมา พร้อมแต่งตั้ง “ผู้ชี้ขาดอิสระ” (independent adjudicators) เพื่อพิจารณาคดีอุทธรณ์ได้รวดเร็วขึ้น แทนที่จะผ่านกระบวนการศาลซึ่งมักล่าช้า

เยเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวว่า กำลังดำเนินการเชิงปฏิบัติ เพื่อลด “ความล่าช้าที่ไม่อาจยอมรับได้” ในกระบวนการดังกล่าว

รัฐบาลเผชิญแรงกดดันอย่างมากให้ลดการพึ่งพาโรงแรมสำหรับที่พักของผู้ขอลี้ภัย และประกาศว่าจะยุติการใช้โรงแรมภายในสมัยรัฐบาลชุดนี้ แต่ปัจจุบันยังมีผู้ขอลี้ภัยกว่า 32,000 คน ที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรม

แม้การตัดสินคำขอลี้ภัยในรอบแรกจะรวดเร็วขึ้นแล้ว แต่เมื่อมีการอุทธรณ์กลับต้องใช้เวลานานเฉลี่ยกว่า 1 ปี และยังมีคดีค้างอยู่ถึง 51,000 คดี ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยที่ไม่ผ่านการอนุมัติยังคงได้รับการดูแลที่พักโดยใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน

รัฐบาลเชื่อว่าคณะผู้ชี้ขาดอิสระชุดใหม่นี้จะช่วยเร่งรัดคดีได้ดีกว่าศาลปกติ และให้คำมั่นว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนนี้

เรื่องนี้ทำให้ฝ่ายค้านโจมตีหนัก โดยพรรคอนุรักษ์นิยมระบุว่าระบบ “อยู่ในภาวะโกลาหล” ขณะที่พรรค Reform UK เสนอให้ “ส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศเป็นจำนวนมาก” หากเดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามช่องทางปกติ

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดความไม่พอใจเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับที่พักผู้ลี้ภัย โดยมีการชุมนุมทั่วสหราชอาณาจักรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ส.ค.) เพื่อประท้วงการใช้โรงแรมเป็นที่พัก โดยเฉพาะในเมืองเอปปิงที่กลายเป็นจุดศูนย์กลางการประท้วง หลังจากมีคดีที่ผู้ลี้ภัยถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งจุดกระแสความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลสูงมีคำสั่งห้ามชั่วคราว ไม่ให้ใช้ Bell Hotel ในเมืองเอปปิงเป็นที่พักผู้ลี้ภัย โดยให้เหตุผลว่าโรงแรมละเมิดกฎหมายผังเมืองและสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยสาธารณะ ผู้ลี้ภัยที่พักอยู่ในโรงแรมต้องย้ายออกภายในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 12 กันยายน รัฐบาลกำลังหาทางอุทธรณ์คำตัดสินนี้

รัฐมนตรีมหาดไทยย้ำว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะปิดโรงแรมลี้ภัยทั้งหมด แต่ต้องทำในลักษณะที่ “จัดการได้อย่างเหมาะสม”

ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าหลายสภาท้องถิ่นกำลังพิจารณาฟ้องร้องในลักษณะเดียวกัน เช่น ฮิลลิงดอน (Hillingdon) ที่มีผู้ลี้ภัยกว่า 2,238 คนพักอยู่ในโรงแรม สอดคล้องกับจดหมายเปิดผนึกของ เคมิ บาเดนอช หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ที่เรียกร้องให้สภาท้องถิ่นอนุรักษนิยมใช้มาตรการทางกฎหมายเช่นกัน

ด้านไนเจล ฟาราจ แกนนำพรรค Reform UK เขียนบทความใน The Telegraph ว่าหากสภาท้องถิ่นอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคตนเอง จะทำทุกวิถีทาง เพื่อเดินตามรอยเมืองเอปปิง

ข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยสหราชอาณาจักรระบุว่า ขณะนี้มี 131 จาก 300 กว่าท้องถิ่น ที่ให้ผู้ลี้ภัยพักในที่พักชั่วคราว เช่น โรงแรม โดย 74 แห่งอยู่ภายใต้การนำของพรรคแรงงาน (Labour) 30 แห่งนำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) 19 แห่งนำโดยพรรคอนุรักษนิยม 9 แห่งนำโดยพรรคกรีน และ 1 แห่งนำโดย Reform UK