ราชทัณฑ์ เผย ยอดผู้ต้องขังติดโควิด เพิ่มอีก 628 ราย คุกขอนแก่นแห่งใหม่ - เสียชีวิต 1 ราย
เมื่อเวลา 14.00 วันที่ 24 พฤษภาคม นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่
จำนวน 628 ราย รักษาหาย 22 ราย เสียชีวิต 1 ราย คือเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 15,373 ราย โดยพบการติดเชื้อเพิ่ม 1 เรือนจำ คือเรือนจำกลางขอนแก่น รวมเรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อ 13 แห่ง
นายวีระกิตติ์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตจำนวน 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 62 ปี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยอาการเหนื่อย ซึมลง และความดันต่ำ การ X-ray พบปอดอักเสบ และมีภาวะไตวายร่วมด้วย แพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุ และมีอาการรุนแรงจึงได้เสียชีวิตในที่สุด การดำเนินการต่อจากนี้ นอกจากเรื่องของวัคซีนแล้ว
คือการวางแผนการรักษาผู้ติดเชื้อ เพื่อลดปริมาณผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตลง โดยเฉพาะการแยกผู้ป่วยออกเป็นกลุ่มสี ตามอาการและภาวะเสี่ยง โดยปัจจุบัน กลุ่มสีเขียว คือผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการป่วยเล็กน้อย และไม่มีภาวะเสี่ยง จะทำการดูแล รักษาภายในโรงพยาบาลสนามเรือนจำ ควบคู่กับการให้สารสกัดจากพืชฟ้าทะลายโจรและพืชฟ้าทะลายโจรชนิดบด และยา
ลดไข้ตามอาการ สำหรับผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่มีอาการแต่มีภาวะเสี่ยง ทั้งโรคประจำตัว ภาวะอ้วน และสูงอายุ จะดำเนินการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อลดความรุนแรงของโรค ไม่ให้อาการหนักจนกลายเป็นกลุ่มสีเหลือง และในกลุ่มสีเหลืองกับสีแดง จะส่งต่อการรักษาไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือโรงพยาบาลแม่ข่ายของแต่ละเรือนจำ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาลสนามเรือนจำให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองที่ต้องรับออกซิเจน เพื่อให้เพียงพอต่อการรักษามากขึ้น” นายวีระกิตติ์ฯ กล่าว
นายวีระกิตติ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในผู้ต้องขังยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อ และการสุ่มตรวจในเรือนจำที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนในขั้นตอนต่อไป โดยขณะนี้ มีเรือนจำ/ทัณฑสถานพื้นที่เสี่ยงที่ดำเนินการตรวจเชื้อในผู้ต้องขังจนครบ 100% แล้วทั้ง 10 แห่ง
คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำพิเศษธนบุรี เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เรือนจำกลางบางขวาง และทัณฑสถานหญิงธนบุรี
รวมทั้งได้เริ่ม SWAB หาเชื้อซ้ำทุก 7 วัน เพื่อตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังที่ยังไม่พบเชื้อไปแล้ว ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะปกติ หรือสามารถแยกผู้ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกันได้อย่างชัดเจน
ลำดับ | เรือนจำ/ทัณฑสถาน | ติดเชื้อรายใหม่ (ราย) | รักษาหายเพิ่ม (ราย) | เสียชีวิต (ราย) |
1. | เรือนจำกลางเชียงใหม่ | – | 18 | – |
2. | เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร | 26 | – | 1 |
3. | ทัณฑสถานหญิงกลาง | – | – | – |
4. | เรือนจำกลางคลองเปรม | 60 | – | – |
5. | เรือนจำพิเศษธนบุรี | – | – | – |
6. | เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา | 14 | – | – |
7. | ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง | 16 | – | – |
8. | เรือนจำจังหวัดนนทบุรี | 304 | – | – |
9. | เรือนจำกลางบางขวาง | 206 | 4 | – |
10. | ทัณฑสถานหญิงธนบุรี | 1 | – | – |
11. | เรือนจำกลางขอนแก่น | 1 | – | – |
12. | เรือนจำพิเศษมีนบุรี | – | – | – |
13. | เรือนจำกลางสมุทรปราการ | – | – | – |
รวม | 628 | 22 | 1 |