ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯเปิดข้อมูล กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด-19
ข่าววันนี้ (22ก.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความเกียวกับ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด 19..... โดย .....เราน่าจะมีวัคซีนโควิด 19 เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจะมีวัคซีนชนิดสารพันธุกรรมเอมอาร์เอนเอ (mRNA) ได้แก่วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา โดยรัฐบาลจัดสรรวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ให้กับเด็กและวัยรุ่นอายุ 12 ถึง 18 ปี ส่วนวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาก็จัดเป็นวัคซีนทางเลือกซึ่งบริหารจัดการโดยโรงพยาบาลเอกชน
หลายคนยังลังเลใจที่จะใช้วัคซีน mRNA เนื่องจากทราบว่ามีโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการรับวัคซีนชนิดดังกว่า เลยขอนำเรื่องนี้จากข้อมูลในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้วัคซีน mRNA มากที่สุด โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) สรุปไว้ มาให้ทุกท่านทราบกันนะครับ
......กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้รับการยอมรับว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่หายากของวัคซีนชนิดเอมอาร์เอนเอ จากรายงานของ CDC พบอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อบุหัวใจอักเสบ 12.6 รายต่อล้านของการได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่สอง ในผู้ที่มีอายุ 12 ถึง 39 ปี โดยพบว่าเด็กอายุ 12-15 ปีมีโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบสูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 4 เท่า
ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมักมีอาการเจ็บหน้าอกหรือเหนื่อยหอบเกิดขึ้น 2-3 วันหลังได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่ 2 โดยจะพบมีคลื่นหัวใจผิดปกติ ระดับเอนไซม์ของหัวใจ (Troponin-T) เพิ่มขึ้น การวินิจฉัยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบทำได้ด้วยการตรวจสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหัวใจ (MRI)
......กลไกการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าวัคซีนชนิด mRNA กระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติที่มีอยู่ก่อนแล้วในบุคคลบางกลุ่ม ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งเชื่อว่าที่พบมากในผู้ชายน่าจะเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของฮอร์โมนเพศกับการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน โดยทั่วไปอาการมักดีขึ้นเร็วหลังจากให้การรักษาและพักผ่อนอย่างเพียงพอ และส่วนใหญ่สามารถกลับไปเรียนหรือทำงานตามปกติได้ในเวลาไม่นาน
.....หากเปรียบเทียบความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้รับจากการรับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA แล้ว ประโยชน์ที่ได้รับในการป้องกันโรคและลดการเจ็บป่วยกับการเสียชีวิตจากโควิดจะสูงกว่าการเกิดหัวใจอักเสบมาก และมีการศึกษา phase 3 ของวัคซีน mRNA รายงานถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าวในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12-17 ปี ในขณะที่วัคซีนชนิดอื่นยังไม่มีการรายงานผลในกลุ่มนี้
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญของ CDC จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป แต่ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ ภายใน 1 สัปดาห์หลังการได้รับวัคซีนดังกล่าวต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อให้การดูแลรักษาโดยเร็ว
อ้างอิงจากข้อมูลของ CDC ตาม link นี้ครับ
https://www.cdc.gov/.../vaccines/safety/myocarditis.html
พลอากาศโท นายแพทย์อนุตตร จิตตินันทน์
ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
ภาพโดย TNN ONLINE