ส่องอุปกรณ์ VR เชื่อมโลกเสมือนจริง | TNN Tech Reports

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Metaverse หรือเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง เป็นหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึง และมีหลากหลายบริษัทที่คิดค้นอุปกรณ์ VR โดยเฉพาะแว่นตา VR เพื่อเชื่อมผู้ใช้งานที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมจริงเข้าสู่โลกเสมือน หรือเรียกอีกอย่างว่า Mixed reality ซึ่งก็หมายถึงการผสมผสานการแสดงผลบนโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกันได้  ทำให้ผู้สวมใส่ได้รับประสบการณ์และสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโลกเสมือนจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือเล่นเกม

และวันนี้เราก็ได้รวบรวม แว่นตา VR จากหลากหลายบริษัทเทคโนโลยีมาให้ได้ชมกัน  

Apple Vision Pro

เริ่มกันที่ค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ กับ  Apple Vision Pro แว่นตา VR/AR ที่ผสมโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน การออกแบบแว่นตา  Apple Vision Pro  เน้นดิไซน์กะทัดรัดให้สวมใส่ได้คล่องตัว ตัวแว่นใช้กรอบอะลูมิเนียม ด้านหน้าเป็นจอกระจกเชื่อมต่อไปกับเฟรมภาพ ด้านหลังเป็นสายรัดที่ยืดหยุ่นได้ ปรับตามสรีระของผู้ใส่ส่วนระบบประมวลผลใช้ ภายในใช้ชิป M2 กับชิป R1 ตัวใหม่  เพื่อช่วยประมวลภาพเสมือนจริงแบบเรียลไทม์

ซึ่งหนึ่งใน ฟีเชอร์เด่นก็คือ EyeSight สามารถปรับความโปร่งใสของจอได้ ทำให้มองเห็นทั้งสองโลกได้พร้อมกัน แบบไม่ต้องกลัวเดินชน สามารถสบตากับคนรอบข้างได้ และทำให้เห็นว่ากำลังใช้งานแว่นตาอยู่ ขณะที่ระบบสั่งการทำได้ง่ายด้วยการใช้สายตา มือ และเสียง ในการแสดงผลภาพบนจอ 

โดยตัวแว่นสามารถใช้เล่นเกม และรับชมภาพในระบบ 3 มิติ ได้ รวมถึงรองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันของแอปเปิล และโปรแกรมต่าง ๆ เช่น Microsoft Office ไปจนถึง Adobe ส่วนราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 3,499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 120,000 บาท ซึ่งมีแผนวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า

Meta Quest 3

ต่อเนื่องกันกับอุปกรณ์ VR ฝีมือการพัฒนาจากอีกค่ายเทคโนโลยีดัง เมต้า เจ้าของเฟซบุ้ก กับผลงานแว่นตาอัจฉริยะที่มีชื่อว่า Meta Quest 3 โดยการออกแบบได้พัฒนามาจาก รุ่นก่อนหน้านี้คือ Meta Quest 2 ซึ่งพัฒนาให้มีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น มีการเพิ่ม 3 รู ด้านหน้าของแว่นตาเพื่อติดตั้งกล้องหน้าที่มีความคมชัดสูงแบบ พาสธรู Passthrough ที่มาพร้อมเซนเซอร์วัดระยะความลึกเพื่อการบันทึกภาพ แล้วนำภาพที่ได้มาผสมผสานองค์ประกอบบนโลกเสมือนเข้าไป เช่น ผู้ใช้งานอาจจะมองเห็นภาพรอบ ๆ ห้อง แต่บนโต๊ะมีชุดเกมจากโลกเสมือนตั้งอยู่ด้วยไปพร้อมกันได้ 

ติดตั้งระบบควบคุมที่เรียกว่า Touch Plus เพิ่มความคล่องตัวและรองรับกับสรีระของผู้ใช้งานมากขึ้น มีระบบสัมผัสในโลกเสมือนจริงแบบ TruTouch รองรับระบบ Hand Tracking ติดตามการเคลื่อนไหวของมือผู้ใช้งานและการสัมผัสโลกเสมือนจริง 

ส่วนการประมวลผล Meta Quest 3 จะติดตั้งชิปสแนปดรากอน เจเนอเรชันใหม่ ช่วยเพิ่มคุณภาพสีสันกราฟิกและเพิ่มรายละเอียดที่คมชัด เพื่อให้การเล่นเกมทำได้อย่างไหลลื่น ไม่สะดุด โดยเคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17,200 บาท พร้อมวางตลาดในช่วงปลายปีนี้ 

Holoride

ปิดท้ายกันด้วย แว่นตา VR ที่เหมาะสำหรับคนที่เบื่อกับการต้องเดินทางบนรถนาน ๆ และไม่อยากแค่นั่งเฉย ๆ กับ แว่นตา VR สำหรับการเล่นเกมบนรถ ผลงานการพัฒนาของสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีความบันเทิงจากเยอรมนี ที่จะเชื่อมโลกเสมือนจริงเข้ากับสภาพแวดล้อมบนรถ เปลี่ยนฉากในเกมตามเส้นทางการเคลื่อนไหวจริงของรถได้ เหมือนเราได้เข้าไปผจญภัยอยู่ในเกมจริง ๆ

โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า Holoride ลักษณะเป็นแว่นตาที่รองรับเทคโนโลยีจำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือน ตัวแว่นจะเปลี่ยนที่นั่งหลังคนขับ ให้กลายเป็นเครื่องเล่นเกมเคลื่อนที่ได้ ซึ่งแว่นนี้ได้จดสิทธิบัตรจำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลการขับขี่รถยนต์ เช่น ความเร็ว ตำแหน่ง การตั้งค่าการนำทาง ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยวและหยุดรถ รวมถึงจับมือกับผู้ผลิตรถยนต์ ทำให้สามารถรับข้อมูลจากตัวรถโดยตรงมาประมวลผลได้ในทันที 

ยกตัวอย่างเช่น หากเรากำลังอยู่ในเกม VR โดยใช้ปืนใหญ่ การสวมใส่ Holoride จะทำให้ปืนใหญ่ขยับตามรถ เมื่อรถในโลกจริงเลี้ยว ปืนใหญ่ในเกมก็เลี้ยวตามเช่นกัน จึงเพิ่มความสมจริงในการใช้งานยิ่งขึ้น สำหรับราคาค่าบริการคิดเป็นแพ็คเกจต่างกัน โดยมีราคาอุปกรณ์และสมาชิก เริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 24,000 บาทต่อปี