รีเซต

นักล่าปรับตัวสู้โลกร้อน เปลี่ยนจากกินเนื้อ เป็นแทะกระดูก

นักล่าปรับตัวสู้โลกร้อน  เปลี่ยนจากกินเนื้อ เป็นแทะกระดูก
TNN ช่อง16
20 สิงหาคม 2568 ( 11:00 )
22

ราว 56 ล้านปีก่อน โลกเคยเผชิญวิกฤติภาวะโลกร้อนอย่างฉับพลันที่เรียกว่า Paleocene–Eocene Thermal Maximum (PETM) ส่งผลให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูง ระบบนิเวศปั่นป่วน และสัตว์หลายชนิดต้องหาวิธีเอาตัวรอด งานวิจัยล่าสุดค้นพบหลักฐานว่าหนึ่งในนักล่าโบราณได้ปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม


 สัตว์นักล่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วชื่อ Dissacus praenuntius ขนาดราวหมาป่า เดิมทีเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก แต่จากการวิเคราะห์ร่องรอยบนฟันฟอสซิลพบว่า เมื่อสภาพอากาศร้อนขึ้นและเหยื่อลดลง มันเริ่มกินสิ่งที่แข็งและเปราะมากขึ้น เช่น กระดูก ลักษณะนี้คล้ายกับพฤติกรรมของสิงโตหรือไฮยีนาในปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนดังกล่าวยังมาพร้อมกับขนาดร่างกายที่เล็กลง สะท้อนว่าการขาดแคลนอาหารเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่าความร้อนเพียงอย่างเดียว

เหตุการณ์ PETM กินเวลาประมาณ 200,000 ปี และสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศ ทั้งในด้านการหายไปของเหยื่อ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักล่า และการปรับตัวของสัตว์ที่ต้องอาศัยความยืดหยุ่นด้านอาหาร นักวิจัยชี้ว่าการมีความสามารถในการกินอาหารที่หลากหลาย คือกุญแจสำคัญของการอยู่รอดในยุคที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

แม้ Dissacus จะปรับตัวเก่งและอยู่รอดมาได้นานกว่า 15 ล้านปี แต่สุดท้ายก็สูญพันธุ์ไปเพราะการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าภาวะโลกร้อนในอดีตทำให้ระบบนิเวศพลิกผันอย่างรุนแรง และสะท้อนให้เห็นความท้าทายที่สัตว์ยุคปัจจุบัน รวมถึงมนุษย์ อาจต้องเผชิญ หากโลกยังร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้จากอดีตจึงเป็นบทเรียนสำคัญในการเตรียมอนาคตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง