รีเซต

6 วิธี "วางแผนการเงิน" แบบ "Gen-Z" ที่ใช้ได้กับทุก Gen

6 วิธี "วางแผนการเงิน" แบบ "Gen-Z" ที่ใช้ได้กับทุก Gen
TNN ช่อง16
30 กันยายน 2568 ( 10:38 )
1

เมื่อพูดถึงบรรดาบุคคลในกลุ่ม "Gen-Z" แน่นอนว่าหลายคนกำลังคิดถึงคนรุ่นใหม่ ที่เกิดมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีของโลก ซึ่งคนในกลุ่ม Gen-Z นั้นก็มีวิธีการ หรือแนวคิดในหลาย ๆ เรื่องที่แตกต่างไปจากคน Gen อื่น ๆ รวมถึงในเรื่องของการ "วางแผนการเงิน"

คนรุ่น Gen Z หรือผู้ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 มักถูกมองว่าเป็นคนรุ่นที่เกิดมาพร้อมกับค่าครองชีพที่สูง และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งนั่นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนในกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการวางแผน หรือบริหารการเงิน ซึ่งคนรุ่น Gen Z ถือว่าเป็นคนรุ่นแรกที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี และการสื่อสารที่พัฒนาอย่างเต็มตัว ทั้งธนาคารออนไลน์ และเครื่องมือทางการเงินขั้นสูง รวมถึงคอนเทนต์ทางการเงินที่มีอยู่มากมาย ล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญต่อการวางแผนการเงิน

คน Gen-Z ห้ความสำคัญกับความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และความจริงใจ โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องการเงินส่วนบุคคล แม้ว่าการพูดคุยเรื่องเงินเดือน และยอดเงินในบัญชีธนาคารอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นก่อน แต่คนรุ่น Gen-Z กลับมีทัศนคติที่ทันสมัย และสามารถแชร์รายละเอียดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้คนบนอินเทอร์เน็ตอย่างเปิดเผย 

เบรนแนน เทียร์การ์ทเนอร์ นักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองจาก Fidato Wealth ได้กล่าวเอาไว้ว่า “คนรุ่น Gen Z มีความสามารถในการบริหารการเงินเก่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเติบโตมา เนื่องจากพวกเขาผ่านพ้นช่วงการระบาดใหญ่ ภาวะเงินเฟ้อ และภาระทางด้านการศึกษา และค่าที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คน Gen นี้มีความระมัดระวังเรื่องเงินมากขึ้นโดยธรรมชาติ” 

และที่สำคัญคน Gen-Z ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น และความเป็นอิสระ ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลายคนพยายามแสวงหาอิสรภาพที่เงิน และเริ่มมองหาวิธีที่เข้าใจง่ายเพื่อบรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม คุณลักษณะเหล่านี้ไม่ได้เป็นแนวคิดที่ถูกจำกัดอยู่แค่คนวัยยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น ใคร ๆ ก็สามารถหยิบยืมแนวทางจากคนรุ่น Gen-Z มาใช้เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในเศรษฐกิจที่ท้าทายในปัจจุบันได้ เรามารู้จักกับ 6 เทรนด์การบริหารการเงินของคนกลุ่มนี้ ที่สามารถใช้ได้ผลกับคนทุก Gen 

1.Envelope budgeting หรือการวางแผนงบประมาณแบบแยกหมวดหมู่ หรือการวางแผนงบประมาณแบบซอง ซึ่งเป็นกลยุทธ์การวางแผนงบประมาณรายจ่ายแบบที่ใช้เงินสด โดยแบ่งรายจ่ายต่าง ๆ ออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าอาหาร ค่าเช่า ค่าน้ำมัน และค่าสันทนาการ ซึ่งแนวคิดนี้ง่ายมาก คือเมื่อเงินรายจ่ายในหมวดหมู่ใดหมดลง คุณจะไม่สามารถใช้เงินในหมวดดหมู่นั้นได้อีกจนกว่าจะถึงเดือนหน้า 

ซึ่งจริง ๆ แลวการวางแผนงบประมาณแบบซองมีมานานหลายปีแล้ว แต่กลับได้รับความนิยมในหมู่คน Gen-Z โดยเทรนด์นี้กลายเป็นกระแสไวรัลบน TikTok และ Instagram สำหรับคน Gen Z การวางแผนงบประมาณแบบซองไม่ได้แค่ใช้งานได้จริงเท่านั้น แต่ยังเป็นเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ทำให้การมีวินัยทางการเงินเป็นเรื่องน่าสนใจ และไม่ได้มีไว้สำหรับคนรุ่นใหม่เท่านั้น ใครก็ตามที่ประสบปัญหาในการทำตามงบประมาณรายจ่ายส่วนบุคคลก็สามารถใช้กลยุทธ์นี้ในการบริหารจัดการได้ 

2.การใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติ และ AI เนื่องจากความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการเพิ่มเงินออม และปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่สามารถช่วยได้ ซึ่งคนรุ่นใหม่ได้เปรียบที่สามารถเรียนรู้ และเข้าใจทระบบอัตโนมัติ และ AI มาใช้ในหลายแง่มุมของชีวิต รวมถึงการวางแผนทางการเงิน 

ด้วยความโดดเด่นของคน Gen นี้ที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับพฤติกรรมการใช้เงิน เพราะพวกเขาเป็นชาวดิจิทัลรุ่นแรก สามารถใช้แอปพลิเคชันเพื่อติดตามการใช้จ่าย ออมเงินอัตโนมัติ และนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุน 

3.ใช้ความท้าทายในการออม และการใช้จ่ายในรูปแบบของ "เกม" การออมเงินแบบเกมสามารถกระตุ้นให้เกิดความมุ่งมั่นในการเอาชนะภารกิจต่าง ๆ แม้ในขณะที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากทางด้านการเงิน 

จากความท้าทายในการออมเงิน ตั้งแต่ No Buy 2025 ไปจนถึงความท้าทายของการออมเงิน 52 สัปดาห์ ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่ม Gen-Z ความท้าทายเหล่านี้ล้วนเกี่ยวกับความพยายามที่จะลดการใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อที่จะออมเงินให้มากขึ้นสำหรับเป้าหมายทางการเงินที่สำคัญ ดังนั้น หากคุณรู้สึกติดขัด หรือหมดกำลังใจในการออมเงิน ลองทำตามแบบฉบับ Gen-Z แล้วสร้างให้มันเป็นความท้าทายส่วนตัว 

4.การจัดสรรงบประมาณอย่างเปิดเผย คนรุ่น Gen-Z ขึ้นชื่อเรื่องการพูด และการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน ทำให้กลยุทธ์ทางการเงินนี้มุ่งเน้นไปที่การกำหนดขอบเขตกับเพื่อน และครอบครัว และเรียนรู้ที่จะรู้สึกสบายใจที่จะปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมทางสังคมที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน 

ตัวอย่างเช่น การปฏิเสธแบบตรง ๆ ด้วยคำว่า "ไม่ว่าง" เพื่อหลีกเลี่ยงอาหารเย็นราคาแพง หรือกิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายสูง คนที่วางแผนการจัดสรรงบประมาณอย่างเปิดเผย ยอมที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ แนวคิดนี้ทำให้การพูดคุยเรื่องเงินอย่างเปิดเผยเป็นเรื่องปกติ สามารถสื่อสารถึงเป้าหมายทางการเงินที่สำคัญกว่า ซึ่งเป็นค่านิยมหลักของคน Gen-Z 

5.ช้อปปิ้งมือสอง เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คน Gen-Z ช่วยเพิ่มเงินออมคือการเปิดรับวัฒนธรรมการ "ช้อปปิ้งแบบประหยัด" เกิดการสร้างกลุ่มโซเชียลมีเดีย และนำเสนอสินค้ามือสองทางออนไลน์ โดยผลสำรวจของ Harris ในปี 2024 พบว่า 63% ของคน Gen-Z เคยซื้อเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับมือสอง เทียบกับ 47% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 

ซึ่งการซื้อเสื้อผ้ามือสอง ของใช้ในบ้าน และสินค้าอื่นๆ จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น เนื่องจากสินค้ามือสองมักจะมีราคาต่ำกว่าราคาขายปลีกทั่วไป แต่การซื้อเสื้อผ้ามือสองก็มีประโยชน์อื่น ๆ ด้วย เช่น ลดปริมาณขยะ และทำให้การค้นหาสินค้าวินเทจ และสินค้าที่เลิกผลิตแล้วได้ง่ายขึ้น 

6.เริ่มต้นธุรกิจ หรือหารายได้เสริม การลดรายจ่ายเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น แต่การเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ก็เป็นเหมือนวิธการคู่ขนานที่ทำให้คุณมีอิสระทางการเงินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นั่นคือเหตุผลที่การเริ่มต้นธุรกิจเสริมจึงเป็นวิธีการที่คน Gen-Z นิยม 

โดยจากผลสำรวจของ Self บริษัทที่ให้บริการเครื่องมือในการสร้างเครดิตพบว่า คน Gen-Z มากกว่า 80% มีธุรกิจเสริมในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่าคนอายุ 18-24 ปี มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนจากงานเสริม หรือมากกว่า 6,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

จะเห็นได้ว่าคน Gen-Z สามารถที่จะใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับการบริหารการเงิน และด้วยการเผชิญวิกฤตต่าง ๆ ของโลกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้พวกเขามีภูมิคุ้มกัน และให้ความสำคัญกับการบริหารการเงินไม่แพ้คน Gen อื่น ๆ ซึ่งแนวคิดการวางแผนการเงินของคน Gen-Z ก็อาจจะกลายมาเป็นต้นแบบของคน Gen อื่น ๆ ได้ในอนาคต

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง