INTUCH กำไร 3,459 ลบ. เพิ่มขึ้น 6% ดีกว่าคาดเล็กน้อย
#INTUCH #ทันหุ้น - บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 3,458.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.08 บาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,263.30 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.02 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 10,166.27 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.17 บาท เพิ่มขึ้น 15% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,835.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.76 บาท
บริษัทชี้แจงว่า ผลการดําเนินงานของกลุ่มอินทัชและเฉพาะบริษัท: ในไตรมาส 3/2567 และงวดเก้าเดือนของปี 2567 กลุ่มอินทัชมีกําไรสุทธิรวม 3,459 ล้านบาท และ 10,166 ล้านบาท ตามลําดับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสวนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอส โดย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากการเติบโตของรายได้หลัก และการเพิ่มขึ้นของกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนส่วนแบ่ง ผลกําไรจากเอไอเอสเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB โดยการรวมรายได้ ต้นทุน และค่าใช้จ่ายของ TTTBB จากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB รวมถึงการเติบโตของรายได้หลักสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงิน สำหรับผลการดําเนินงานเฉพาะบริษัท อินทัชมีค่าใชจ่ายในการดําเนินงานสุทธิ (ไม่รวมผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent) สำหรับไตรมาสนี้และงวดเก้าเดือนของปีนี้อยู่ที่ 59 ล้านบาท และ 110 ล้านบาท ตามลําดับ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน จากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ โดยหากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานสุทธิของอินทัชจะลดลง โดยในไตรมาส 3/2567 อินทัชมีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent จํานวนประมาณ 31 ล้านบาท
การจ่ายเงินปันผล: ปัจจุบันอินทัชมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลจากงบการเงินเฉพาะบริษัท โดยพิจารณาจ่ายในอัตราร้อยละ 100 จากเงินปันผลที่ บริษัทได้รับจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยหลังหักค่าใช้จ่าย หากไม่มีเหตุจําเป็นอื่นใด และการจ่ายเงินปันผลนั้นไม่มีผลกระทบต่อการดําเนินงานปกติ ของอินทัชอย่างมีนัยสําคัญ ปัจจัยสําคัญที่อาจมีอิทธิพลและมีผลกระทบต่อฐานะการเงินหรือผลการดําเนินงานของอินทัชอย่างมีนัยสําคัญในอนาคต เนื่องจากอินทัชประกอบธุรกิจการลงทุนโดยการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น ดังนั้น ปัจจัยที่มีผลต่อฐานะการเงิน หรือ ผลการดําเนินงานอย่างมีนัยสําคัญของ บริษัทที่เข้าลงทุน จึงเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออินทัชด้วย
ทั้งนี้ โปรดดูคําอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดําเนินงานของเอไอเอส (ADVANC) เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ
ธุรกิจของบริษัท
ขาดทุนสุทธิหรือค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานสุทธิของอินทัช สําหรับไตรมาส 3/2567 และงวดเก้าเดือนของปี 2567 อยู่ที่ 59 ล้านบาท และ 110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน เป็นผลจากค่าใชจ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ โดยหากไม่รวมค่าใช้จ่าย ดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานสุทธิของอินทัชจะลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน จากการบริหารค่าใช้จ่าย และการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยรับ ธุรกิจของกลุ่มเอไอเอส
ส่วนแบ่งผลกําไรจากเงินลงทุนในกลุ่มเอไอเอส เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้หลักและกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนส่วนใหญ่เป็นผลจากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB และการเติบโตของรายได้หลักสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของ ต้นทุน และค่าใช้จ่าย รวมถึงต้นทุนทางการเงินจากการก่อหนี้ที่ใช้สําหรับการซื้อกิจการ TTTBB และต้นทุนทางการเงินของหนี้สินตามสัญญาเช่าของ 3BBIF
รายได้จากขายและการให้บริการ ในไตรมาสนี้และงวดเก้าเดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของ
รายได้จากการให้บริการในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 จากการขยายฐานผู้ใช้บริการและการเพิ่มขึ้นของ ARPU ซึ่งเติบโตจากกลยุทธ์การขายพ่วงบริการเสริมแก่กลุ่มลูกค้าเดิม รวมถึง การดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วยแพ็กเกจที่มีมูลค่าสูง
รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการเติบโตของ ARPU และจํานวนเลขหมายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการมุ่งเน้นบริการ ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการใช้งานข้อมูลที่สูงขึ้น และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 ผ่านการขยายฐานผู้ใช้บริการและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
รายได้จากธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและบริการอื่นๆ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB ที่ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร และรับรู้ รายได้เชอมโยงโครงข่ายระหว่าง NT และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาจากรายได้การขายบริการคลาวด์สําหรับโครงการขนาดใหญ่
รายได้จากการขายอุปกรณ์และซิมโดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากการขายอุปกรณ์เพิ่มสูงขึ้นตามช่วงการเปิดตัว iPhone 16 ในปลาย เดือนกันยายน 2567 และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับงวด 9 เดือนของปี 2566 จากยอดขาย Handset และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ รัฐบาลโดยการลดหย่อนภาษีในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายอุปกรณ์และซิมลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2566 เนื่องจากจํานวนเครื่อง iPhone ที่ได้รับมาขายในประเทศไทยในช่วงเปิดตัวมีจํานวนน้อยกว่าปีก่อน
ต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาจากค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น ชดเชยด้วยค่าซ่อมบํารุงและค่าส่งสัญญาณ (Transmission cost) ที่ลดลง และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2566 และงวดเก้าเดือนของปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการรับรู้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์สุทธิการใช้และค่าใช้จ่ายของ TTTBB
ต้นทุนในการจัดจําหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร ในไตรมาสนี้และงวดเก้าเดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2566 และงวดเก้าเดือนของปี 2566 ส่วนใหญ่เนื่องจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายของ TTTBB และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นผลจากการบันทึกค่าใช้จ่าย พนักงานตามผลประกอบการและค่าใช้จ่ายการตลาดในช่วงเปิดตัว iPhone 16 และค่าใช้จ่ายด้านสทธิประโยชน์ลูกค้า