ผู้ว่าฯ กระบี่ สั่งเข้มทุกด่าน คัดกรองคนเข้าพื้นที่ ต้องมีหลักฐานตรวจ โควิด-19

ผู้ว่าฯ กระบี่ สั่งเข้มทุกด่าน คัดกรองคนเข้าพื้นที่ ต้องมีหลักฐานตรวจ โควิด-19 มาจากต้นทาง หากมาตรวจที่ จ.กระบี่ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ประชุมติดตามการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ของศูนย์อำนวยการป้องกันการแพร่ระบาดฯ จังหวัดกระบี่ ผ่านระบบ ZOOM โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติตามประกาศ ฉบับที่ 4 ของรัฐบาล เน้นด่านระหว่างจังหวัดจะต้องปฏิบัติการเข้มข้นอย่างสูงสุด เนื่องจากมีการเดินทางของประชาชนจากพื้นที่ใกล้เคียงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีสถิติสูงระดับประเทศ

โดยมีผู้ขอเดินทางออกจากจังหวัดประมาณ 40,000 ราย ในจำนวนดังกล่าวมีการเดินทางผ่าน จ.กระบี่ และบางรายมีจุดหมายมายังพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่และประชาชนได้มีการสกรีนเพื่อไม่ให้มีผู้ติดเชื้อ และค้นหาผู้ติดเชื้อนำไปรักษา แต่ผู้ที่เดินทางเข้ามาใหม่ ไม่ได้ผ่านการตรวจหาเชื้อจากจังหวัด และโดยปกติผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดจะต้องกักตัวเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน

แต่เนื่องจากจำนวนคนที่เข้ามามาก จังหวัดกระบี่ไม่มีสถานที่กักกันไว้เพียงพอ ดังนั้น จึงต้องกำหนดมาตรการให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องมีหลักฐานการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มาจากต้นทาง และหากจะมาตรวจที่จังหวัดกระบี่ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งค่าตรวจ ค่าพาหนะ ซึ่งจังหวัดไม่อนุญาตให้ใช้พาหนะเดินทางเข้ามา ต้องใช้รถของโรงพยาบาลที่มีความปลอดภัย ป้องกันการแพร่เชื้อได้เท่านั้น หรือมีหลักฐานการกักตัวตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จึงจะสามารถเดินทางผ่านเข้ามาในพื้นที่ จ.กระบี่ ได้