รีเซต

ปภ. เตือน 10 จังหวัดริมเจ้าพระยา ระวังน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่ 26 ก.ค.เป็นต้นไป

ปภ. เตือน 10 จังหวัดริมเจ้าพระยา ระวังน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่ 26 ก.ค.เป็นต้นไป
TNN ช่อง16
26 กรกฎาคม 2567 ( 22:00 )
33

     นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย   เปิดเผยว่า  ปภ. ได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2567 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำ  1-3 วันข้างหน้า พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น    จึงได้ประสานจังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 10 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ  พร้อมแจ้งเตือน บริษัท ห้างร้าน ผู้ประกอบการ และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ 

       กรมชลประทาน  เผยว่า ยังคงอัตราการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาไว้ไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัว ล่าสุดวัดได้ 10 เมตร 10 เซนติเมตร แต่จะปรับเพิ่มการระบายไปอยู่ในเกณฑ์ 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 27 กรกฎาคม  โดยมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังด่านแรก คือ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง / คลองบางบาล   อำเภอเสนา,อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  คาดว่า พื้นที่ ริมฝั่งแม่น้ำน้อยจะมีระดับน้ำสูงขึ้น 15-30 เซนติเมตร ในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้


        สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา  บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา  ที่อำเภออินทร์บุรี  อำเภอเมืองสิงห์บุรี  และอำเภอพรหมบุรี  ชลประทานยืนยันว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงทรงตัว    การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนไว้  ไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที     ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สิงห์บุรีสูงขึ้นเล็กน้อย      แม้ว่าในเช้าวันนี้จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่   แต่สถานการณ์ทั่วไปก็ยังคงไม่น่ากังวล    อย่างไรก็ตามกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์    หากปริมาณน้ำและปริมาณฝนในพื้นที่ตอนบนมีแนวโน้มลดลง  กรมชลประทานก็จะปรับลดการระบายน้ำ  เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนบริเวณท้ายเขื่อนให้มากที่สุด  

 ที่มา : ปภ. - กรมชลประทาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง