ยุบศบค.-เลิกฉุกเฉิน 30 ก.ย. ใช้ "พรบ.โรคติดต่อ" คุมโควิด
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ครั้งที่ 12/2565
พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีผลตั้ง 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป การดูแลสถานการณ์ทั่วไปมีกฎหมายปกติอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2565 เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เดิมประกาศสิ้นสุดในวันดังกล่าว ตามกฎหมายต้องดำเนินการตามนี้ กลไกต่อไปภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ผ่านมา รัฐบาลมีการดำเนินการเป็นขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจุดที่ต้องพิจารณาและประเมินถึงความเหมาะสม ด้วยสถานการณ์ที่ดีขึ้น รวมถึง สธ.ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวัง กฎหมายปกติใช้ได้แล้ว หากไม่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการดูแลสถานการณ์ จะใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ รวมไปถึงร่าง พ.ร.บ.โรคติดต่อที่ได้ปรับปรุงแก้ไข จากเดิมปี 2558 แต่หากมีอะไรพิเศษ ก็สามารถพิจารณาใช้กฎหมายเพิ่มเติมได้ ย้ำว่าเมื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ศบค.จะยุติบทบาทในทันที รวมไปถึง 9 ศูนย์ที่อยู่ภายใต้ ศบค.ก็ยุติบทบาทเช่นกัน หลังจากนี้จะเสนอเข้าที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันที่ 27 กันยายนนี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงภายหลังการประชุมศบค.ว่า สถานการณ์แพร่ระบาดภาพรวมของโลกดีขึ้น ผู้ประกอบการจัดกิจการกิจกรรมได้ตามปกติ สธ.ปรับให้โรคโควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรง เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งยกเลิกประกาศ และคำสั่งที่ ครม.ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในการประกาศใช้ ให้มีผลวันที่ 30 กันยายน เป็นต้นไป ถือเป็นการสิ้นสุดศบค.
“เหตุผลที่สธ.เสนอยกเลิก เพราะอัตราผู้ป่วยและเสียชีวิตลดลง วันนี้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ รักษาตัวในโรงพยาบาล 752 ราย เสียชีวิต 9 ราย การใช้เตียงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
……..